ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อดีข้อเสีย ของการใช้อาหารสายยางทางหน้าท้องมีอย่างไรบ้าง  (อ่าน 3 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 365
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี
    • ดูรายละเอียด
ข้อดีข้อเสีย ของการใช้อาหารสายยางทางหน้าท้องมีอย่างไรบ้าง

การใช้สายยางให้อาหารทางหน้าท้อง (PEG/G-Tube) มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างจากการใช้สายทางจมูก (NG Tube) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาการให้อาหารในระยะยาวค่ะ

นี่คือสรุปข้อดีและข้อเสียของการใช้สายยางทางหน้าท้อง:

✅ ข้อดีของการใช้สายยางทางหน้าท้อง (PEG/G-Tube)

ข้อดี                                                     คำอธิบาย

1. เหมาะสำหรับระยะยาว   เป็นวิธีการที่ปลอดภัยและสะดวกที่สุดสำหรับการให้อาหารต่อเนื่องนานกว่า 4–6 สัปดาห์
 
2. เพิ่มความสบาย   ผู้ป่วยรู้สึกสบายกว่ามาก เพราะไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในจมูกและลำคอ ลดความระคายเคืองและปัญหาสุขภาพช่องปาก/คอ

3. เสี่ยงต่อการเลื่อนหลุดน้อยกว่า   เมื่อสายเข้าที่แล้ว มีโอกาสที่จะเลื่อนหลุดจากตำแหน่ง หรือถูกผู้ป่วยดึงออกโดยไม่ตั้งใจน้อยกว่าสาย NG Tube ที่ยึดด้วยพลาสเตอร์

4. ดูแลสุขอนามัยง่ายขึ้น   การดูแลช่องปากและใบหน้าทำได้ง่ายกว่า ทำให้สุขอนามัยโดยรวมดีขึ้น

5. ดูดีกว่า (Aesthetic)   สายยางไม่ปรากฏให้เห็นชัดเจนเท่าสายที่ผ่านจมูกและใบหน้า


❌ ข้อเสียของการใช้สายยางทางหน้าท้อง (PEG/G-Tube)

           ข้อเสีย                                             คำอธิบาย

1. ต้องทำหัตถการ    การใส่สายต้องทำโดยแพทย์ภายใต้การส่องกล้อง (Endoscopy) และอาจต้องใช้ยาสลบหรือยาชา

2. ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ   มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ การอักเสบ หรือการระคายเคืองบริเวณรูเปิดที่หน้าท้อง (Stoma Site) หากดูแลความสะอาดไม่ดีพอ

3. ความเสี่ยงต่อการรั่วซึม   อาจเกิดการรั่วซึมของน้ำย่อยหรืออาหารออกมาสัมผัสผิวหนังรอบสายยาง ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังอักเสบและเกิดแผลได้

4. มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า   ค่าใช้จ่ายในการใส่สายครั้งแรกและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสายตามระยะเวลาที่กำหนดจะสูงกว่าสาย NG Tube

5. ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ   อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อย เช่น เลือดออกบริเวณที่ใส่สาย หรือการเคลื่อนที่ของสายยางเข้าไปในลำไส้เล็กโดยไม่ตั้งใจ