รวมเว็บลงประกาศฟรี ติด google
หมวดหมู่ทั่วไป => โพสต์ขายของฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 22:24:10 น.
-
โรคเบาหวานคืออะไร มีกี่ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร (https://doctorathome.com/disease-conditions/278)
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอย่างเรื้อรัง เนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อินซูลิน (Insulin) เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน มีหน้าที่สำคัญในการนำน้ำตาลกลูโคสจากกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงาน เมื่อร่างกายขาดอินซูลินหรืออินซูลินทำงานผิดปกติ น้ำตาลจะค้างอยู่ในกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงต่างๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวาย เส้นประสาทถูกทำลาย ตาบอด และแผลเรื้อรังที่เท้า
โรคเบาหวานมีกี่ชนิด? แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร?
โรคเบาหวานหลักๆ มี 3 ชนิด และยังมีชนิดอื่นๆ ที่พบน้อยกว่า:
1. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes)
สาเหตุ: เป็นโรคที่เกิดจาก ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์เบต้าในตับอ่อน ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินได้น้อยมากหรือไม่ผลิตเลย จัดเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Disease)
ลักษณะเด่น:
มักพบใน เด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ตอนต้น (แต่ก็สามารถเกิดได้ทุกวัย)
อาการมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง
จำเป็นต้องได้รับอินซูลินทดแทนตลอดชีวิต โดยการฉีดอินซูลินทุกวัน
การรักษาหลัก: การฉีดอินซูลินทดแทนอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการนับคาร์โบไฮเดรตในอาหาร และการออกกำลังกาย
2. โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)
สาเหตุ: เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด (ประมาณ 90-95% ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด) เกิดจาก 2 กลไกหลัก คือ:
ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance): เซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินที่ตับอ่อนผลิตได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อผลิตอินซูลินให้เพียงพอ
ตับอ่อนผลิตอินซูลินลดลง: เมื่อเวลาผ่านไป ตับอ่อนที่ทำงานหนักเกินไปจะเสื่อมสภาพลง ทำให้ผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ลักษณะเด่น:
มักพบใน ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีน้ำหนักเกิน/อ้วน (แต่ปัจจุบันพบในเด็กและวัยรุ่นมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต)
มักเกี่ยวข้องกับ พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การขาดการออกกำลังกาย
อาการมักจะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ หรือไม่มีอาการเลยในช่วงแรก ทำให้บางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน
การรักษาหลัก:
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ยารับประทานลดระดับน้ำตาล: เพื่อเพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน หรือกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน
การฉีดอินซูลิน: ในกรณีที่ยาเม็ดไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ หรือตับอ่อนเสื่อมมาก
3. โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes Mellitus: GDM)
สาเหตุ: เกิดขึ้นใน สตรีตั้งครรภ์ ที่ไม่เคยเป็นเบาหวานมาก่อน แต่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์
สาเหตุหลักมาจาก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ลักษณะเด่น:
มักตรวจพบในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของการตั้งครรภ์
ส่วนใหญ่มักหายไปเองหลังคลอดบุตร
มีความเสี่ยงสูง ที่มารดาจะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต และทารกมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ตัวโตผิดปกติ หรือมีปัญหาสุขภาพเมื่อโตขึ้น
การรักษาหลัก: การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเบาๆ และการฉีดอินซูลินหากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลด้วยวิธีอื่น
4. โรคเบาหวานชนิดอื่นๆ (Other Specific Types of Diabetes)
เป็นชนิดที่พบน้อยกว่า เกิดจากสาเหตุที่เฉพาะเจาะจง เช่น:
เบาหวานที่เกิดจากโรคของตับอ่อน: เช่น ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง มะเร็งตับอ่อน การผ่าตัดตับอ่อน
เบาหวานที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม: เช่น MODY (Maturity-Onset Diabetes of the Young) ซึ่งเป็นเบาหวานที่เกิดจากยีนผิดปกติบางตัว มักพบในวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ตอนต้น และถ่ายทอดทางพันธุกรรม
เบาหวานที่เกิดจากโรคทางต่อมไร้ท่อ: เช่น โรคคุชชิง (Cushing's Syndrome) โรคอะโครเมกาลี (Acromegaly)
เบาหวานที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรค HIV
ความแตกต่างที่สำคัญสรุปในตาราง
คุณสมบัติ เบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดที่ 2 เบาหวานขณะตั้งครรภ์
สาเหตุ ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์สร้างอินซูลิน ดื้ออินซูลินและตับอ่อนผลิตลดลง ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ทำให้ดื้ออินซูลิน
พบในวัย เด็ก, วัยรุ่น, ผู้ใหญ่ตอนต้น ผู้ใหญ่, ผู้สูงอายุ (พบบ่อยที่สุด) สตรีตั้งครรภ์
การดำเนินโรค มักรุนแรงและเฉียบพลัน ค่อยเป็นค่อยไป, อาจไม่แสดงอาการ เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์, มักหายหลังคลอด
ความสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว ไม่สัมพันธ์กันโดยตรง มักเกี่ยวข้องกับน้ำหนักเกิน/อ้วน อาจสัมพันธ์หรือไม่ก็ได้
การรักษาหลัก อินซูลินตลอดชีวิต ปรับพฤติกรรม, ยาเม็ด, อินซูลิน ควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย, อินซูลิน (ถ้าจำเป็น)
อินซูลินในร่างกาย ผลิตไม่ได้เลยหรือไม่เพียงพอ ผลิตได้ (แต่ดื้อ) หรือลดลงเมื่อนานไป ผลิตได้แต่ทำงานไม่ดี
ปัจจัยเสี่ยง พันธุกรรม (แต่ไม่ชัดเจนเท่าชนิด 2) พันธุกรรม, อ้วน, ขาดออกกำลังกาย ประวัติครอบครัว, อ้วน, เคยมีประวัติ GDM
ส่งออกไปยังชีต
การทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละชนิดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวินิจฉัย การรักษา และการจัดการโรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและป้องกันภาวะแทรกซ้อนครับ