แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 21
1
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: ภาวะลองโควิด อาการเรื้อรังที่ตามมาของคนเคยติดเชื้อโควิด-19

การติดเชื้อโควิด-19 นับว่าเป็นโรคที่ส่งผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพราะว่าหลังจากรักษาหายแล้ว แต่หลายคนยังรู้สึกเหมือนยังไม่หายดี เพราะว่าระหว่างการติดเชื้อ ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อไปจับกับเซลล์โปรตีนของบางอวัยวะ ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย เป็นผลให้อวัยวะนั้นๆ ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบไปทั่วร่างกาย เช่น อาการปอดบวม หรือ เนื้อปอดถูกทำลาย โดยระดับความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในรักษา และการกำจัดเชื้อโควิดในร่างกาย เราเรียกภาวะนี้ว่า "โควิดระยะยาว (Long COVID)" โดยกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า สามารถพบได้ถึง 30-50% สาเหตุหลักมาจาก เครียดสะสม หรือเป็นผลข้างเคียงของยาที่ใช้ เช่น ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ โรคแฝง หรือบางรายอาจติดเชื้อโควิดซ้ำแต่คนละสายพันธุ์

Long COVID อาการเป็นอย่างไร?

    Long COVID เป็นภาวะหรืออาการที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากได้รับเชื้อนาน 4 สัปดาห์ไปจนถึง 12 สัปดาห์ขึ้นไป อาการที่พบมีหลากหลายและแตกต่างกัน

    อาการที่พบบ่อยที่สุด มีตั้งแต่ไม่รุนแรงจนถึงทำให้ร่างกายทรุดโทรม และมีผลระยะยาวตั้งแต่หลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือนหลังหายจากโควิด-19 โดยอาการที่พบมากที่สุด คือ เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ สมาธิสั้น ผมร่วง หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม การรับรสชาติและการรับกลิ่นเปลี่ยนไป เจ็บหน้าอก หายใจถี่ ปวดตามข้อ ไอ ท้องร่วง กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีภาวะสมองล้า นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง  (Post-Traumatic Stress Disorder)
    สามารถพบอาการของ Long COVID ในผู้ป่วยนอก 35 % และผู้ป่วยใน  87% โดยอาการที่เกิดขึ้นอาจยาวนานถึง 3 เดือนขึ้นไป

ภาวะแทรกซ้อนของโควิด-19

    เกิดขึ้นได้ในระยะ 1-2 เดือน มีตั้งแต่ อาการหอบเหนื่อย เพลีย พบพังผืดที่ปอด พบความผิดปกติที่ปอด เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน พบความผิดปกติเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด ภาวะติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราแทรกซ้อน เกิดการอักเสบภายในอวัยวะสำคัญ เช่น ตับอักเสบเฉียบพลัน การทำงานของไตบกพร่อง ไตวายเฉียบพลัน ปัญหาทางระบบประสาท กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการนอนในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ภาวะซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ
    ผู้ป่วยที่ได้รับยาในกลุ่มสเตียรอยด์ อาจจะมีอาการแสบกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน ระดับน้ำตาลไม่คงที่ และเบาหวาน

ใครคือกลุ่มเสี่ยง?

    ผู้สูงอายุ เพศหญิงมากกว่าเพศชาย ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคเบาหวาน ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ และผู้ที่เคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
    ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการไม่หนัก หรือผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ก็สามารถมีโอกาสเกิดอาการ Long COVID ได้ แต่จะไม่พบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันจากการรับวัคซีน

ป่วยเป็นโควิดหายแล้ว ต้องดูแลตนเองอย่างไร?

    หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ไอมาก เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกอาการแย่ลง ควรรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษา เช่น ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน หลอดเลือดหัวใจอุดตัน ลิ่มเลือดในปอดอุดตัน
    ผู้ป่วยที่มีเชื้อลงปอด นอนโรงพยาบาลนาน ได้รับออกซิเจนหรือใช้เครื่องช่วยหายใจ ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด
    ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือพบโรคประจำตัวใหม่ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
    ผู้ป่วยที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโควิดหรือยังฉีดไม่ครบตามกำหนด ควรรับการฉีดวัคซีนได้ภายใน 1-3 เดือน หลังจากหายป่วย
    ผู้ป่วยที่เพิ่งหาย ยังไม่แนะนำให้ออกกำลังกายมากหรือเหนื่อยเกินไป ควรปรับให้เป็นการออกกำลังแบบเบาๆ เช่น เคยวิ่งอาจปรับเป็นเดินก่อน เพื่อให้ปอดทำงานไม่หนักจนเกินไปและร่างกายค่อยๆ ฟื้นตัวและปรับตัวกลับสู่สภาวะที่แข็งแรง
    ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง หรือมีอาการเล็กน้อย เมื่อหายจากการติดเชื้อแล้วควรสังเกตอาการของตนเอง หากรู้สึกว่าร่างกายยังอ่อนเพลีย การฟื้นตัวได้ไม่เท่าเดิม แนะนำตรวจสุขภาพ  ตรวจเลือดเพื่อดูความผิดปกติของตับ ไต สารบ่งชี้การอักเสบต่างๆ เอกซเรย์ปอด  เพื่อแก้ไขให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว

หลังการติดเชื้อโควิด ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานตามธรรมชาติและมักจะไม่ติดเชื้อโควิดซ้ำในช่วง 1-3 เดือนแรกหลังหายป่วย แต่ภูมิต้านทานจะค่อยๆ ลดลงและไม่คงอยู่ตลอด ทำให้มีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีกในอนาคต จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ เช่น ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา  หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% รับประทานอาหารร้อน ช้อนกลาง และไม่ไปในแหล่งชุมชนแออัด หรือสถานที่อากาศไม่ถ่ายเท

ดังนั้น ผู้ที่หายจากโควิด-19  ต้องสังเกตตัวเองอย่างละเอียด ประเมินร่างกายตนเองอยู่เสมอ และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายอย่างถูกต้อง หากมีอาการดังกล่าวข้างต้นที่รบกวนการใช้ชีวิต แนะนำให้พบและปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด และอาจจะต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อทำการรักษาให้ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าปล่อยทิ้งไว้จนรุนแรงและเรื้อรัง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียโอกาสในการรักษาและส่งผลเสียต่อสุขภาพที่มากขึ้นนั่นเอง
 

2
ข้าวแห้งซีฟู้ด ขายอาหารจานเดียวสร้างรายได้ ที่รสชาติอร่อยที่ให้ความสดใหม่จากท้องทะเล รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ

ข้าวแห้งทะเลคือเมนูที่สมบูรณ์แบบที่สุด อาหารจานเดียวจานนี้ผสมผสานความหวานตามธรรมชาติของอาหารทะเลสดๆ เข้ากับรสชาติเข้มข้นหอมกรุ่นของผัดไทย เสิร์ฟบนข้าวหอมมะลิหอมกรุ่นโดยไม่ต้องปรุงน้ำซุปหรือแกงใดๆ เรียบง่าย อร่อยและเต็มอิ่มไปด้วยรสชาติของทะเล เมนูที่มีรสชาติเข้มข้น หอมเครื่องเทศและกลิ่นทะเลเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน

ข้าวผัดทะเลเป็นข้าวผัดทะเลแบบไทยที่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบ ต่างจากข้าวผัดตรงที่ข้าวมักจะหุงแยกกัน ในขณะที่อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่และปลา จะถูกผัดกับสมุนไพรหอม พริก กระเทียมและน้ำจิ้มรสอ่อนๆ จากนั้นนำอาหารทะเลที่สุกแล้วและน้ำจิ้มราดลงบนข้าวสวย ทำให้ข้าวมีเนื้อสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำแต่ไม่เละเกินไป จึงเป็นที่มาของชื่อข้าวแห้ง
ผลลัพธ์ที่ได้คือมื้ออาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติที่เข้มข้นและสมดุล โดยไม่ต้องรู้สึกหนักท้องเหมือนแกงกะหรี่หรือซุป

ส่วนผสมหลักที่นำรสชาติออกมา
ความมหัศจรรย์ของข้าวแห้งซีฟู้ดอยู่ที่การผสมผสานระหว่างวัตถุดิบสดใหม่และเครื่องปรุงรสไทยที่ช่วยยกระดับส่วนประกอบธรรมดาให้กลายเป็นเมนูที่น่ารับประทาน
อาหารทะเลรวม – โดยทั่วไปประกอบด้วยกุ้ง ปลาหมึกและหอยแมลงภู่ ความสดของอาหารทะเลเป็นตัวกำหนดรสชาติ ดังนั้นวัตถุดิบคุณภาพสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ
กระเทียมและพริก – บดและผัดในน้ำมันร้อนเพื่อสร้างฐานที่เผ็ดและมีกลิ่นหอม
ซอสหอยนางรมและน้ำปลา – ส่วนผสมเหล่านี้ให้รสอูมามิที่เคลือบอาหารทะเลได้อย่างลงตัว
โหระพาสดหรือสมุนไพรไทย – ใส่ตอนท้ายเพื่อเพิ่มความหอม
ข้าวหอมมะลินึ่ง – ข้าวที่นุ่มและอุ่นเป็นคู่หูที่ลงตัวในการดูดซับซอสรสชาติกลมกล่อม

วิธีทำข้าวแห้งซีฟู้ด
ทำเมนูนี้ที่บ้านได้ง่ายและรวดเร็ว นี่คือวิธีง่ายๆ:
เตรียมส่วนผสม:ทำความสะอาดและหั่นอาหารทะเลเป็นชิ้นพอดีคำ ปอกเปลือกกุ้งและกรีดปลาหมึก
เครื่องเทศผัด:ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียมสับและพริก ผัดจนมีกลิ่นหอม
ใส่อาหารทะเล:ใส่อาหารทะเลลงไปแล้วผัดด้วยไฟแรงจนสุก
ปรุงรส :เติมซอสหอยนางรม, ซอสถั่วเหลือง, น้ำปลา และน้ำตาลเล็กน้อยเพื่อรสชาติที่สมดุล
ผสมและเสิร์ฟ:เพิ่มโหระพาสดหรือสมุนไพรไทยเล็กน้อย คนสักครู่ จากนั้นราดส่วนผสมทั้งหมดลงบนจานข้าวหอมมะลินึ่ง
เสิร์ฟทันทีจะอร่อยที่สุดเมื่ออาหารทะเลยังร้อนและฉ่ำอยู่

ทำไมคุณถึงจะหลงรักข้าวแห้งซีฟู้ด
รวดเร็วและสะดวกสบาย:พร้อมภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที เหมาะสำหรับวันยุ่งๆ
มีคุณค่าทางโภชนาการ:อุดมไปด้วยโปรตีนไขมันต่ำและแร่ธาตุที่จำเป็นจากอาหารทะเล
รสชาติกลมกล่อมแต่เบาสบาย:อิ่มเอมใจโดยไม่รู้สึกเหนียวหรือหนักผิว
ปรับแต่งได้:คุณสามารถปรับระดับเครื่องเทศได้อย่างง่ายดายหรือเลือกชุดอาหารทะเลที่คุณชื่นชอบได้
ไม่ว่าจะทานที่ร้านอาหารริมทะเลหรือทำเองที่บ้าน อาหารจานนี้ก็สะท้อนถึงแก่นแท้ของอาหารชายฝั่งของไทยได้อย่างชัดเจน สดใหม่ หอมกรุ่น และอบอุ่นใจ

การจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ
เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับมื้ออาหารของคุณ ลองเสิร์ฟข้าวแห้งอาหารทะเลพร้อมกับ:
ซุปใสพร้อมผัก เป็น เครื่องเคียงเพื่อมื้ออาหารที่สมดุล
ไข่ดาวหรือไข่เจียวเพื่อเพิ่มความเข้มข้น
แตงกวาหั่นบางและมะนาวเพื่อความสดชื่นและความเป็นกรด
น้ำจิ้มซีฟู้ดที่ทำจากพริก มะนาว และน้ำปลา เพื่อรสชาติจัดจ้านยิ่งขึ้น

ข้าวผัดทะเลแห้งหาซื้อได้ตามแผงขายอาหารริมทางร้านอาหารทะเลและแม้แต่ร้านอาหารริมชายหาดตามชายฝั่งของประเทศไทย แต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางร้านใช้ซอสโหระพารสเผ็ด ในขณะที่บางร้านเน้นกระเทียมและพริกไทยเพื่อรสชาติที่อ่อนกว่า

หากคุณไปเที่ยวทะเล เช่นหัวหิน ระยอง หรือภูเก็ตคุณจะพบว่าแต่ละภูมิภาคก็มีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง โดยใช้วัตถุดิบอาหารทะเลท้องถิ่นที่จับได้สดๆ จากทะเลในเช้าวันนั้น

ลักษณะเด่น:
เป็นข้าวสวยที่ไม่ได้ใส่น้ำซุปเหมือนข้าวต้ม แต่จะมีน้ำขลุกขลิกจากการผัดเครื่องทะเล
มักจะเสิร์ฟพร้อมกับน้ำซุปใสร้อนๆ แยกถ้วยมาให้ซดคู่กัน
มีเครื่องเคียงและเครื่องปรุงรสต่างๆ ให้ใส่เพิ่ม เช่น กระเทียมเจียว, ขึ้นฉ่าย, น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

ข้าวแห้งทะเลไม่ได้เป็นเพียงอาหารธรรมดาๆ แต่เป็นเครื่องปรุงรสอันแสนอร่อยที่สะท้อนถึงวิถีการปรุงอาหารไทยริมชายฝั่ง ด้วยรสชาติที่ลงตัวของเครื่องเทศ รสชาติกลมกล่อม และวัตถุดิบสดใหม่จากทะเล จึงมั่นใจได้ว่าจะถูกใจทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่มองหารสชาติไทยแท้ในจานเดียว

ไม่ว่าคุณจะเพลิดเพลินกับอาหารทะเลจากแผงขายของริมทะเลหรือปรุงเองในครัว อาหารจานนี้ก็พร้อมมอบจิตวิญญาณแห่งท้องทะเลสู่จานของคุณอย่างอบอุ่น รสชาติกลมกล่อม และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบไทยๆ


3
โพสต์ขายของฟรี / เผยข้อดี ของการจัดฟันเด็ก
« เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2025, 17:31:29 น. »
เผยข้อดี ของการจัดฟันเด็ก

การจัดฟัน ถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก คือการรักษาที่จะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่สวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของผู้เข้ารับการจัดฟันให้มีความมั่นใจ มีรอยยิ้มที่สดใสอีกด้วย ซึ่งการจัดฟันนั้น มีด้วยหลากหลายรูปแบบ โดยทันตแพทย์จะทำการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาฟันของแต่ละบุคคล เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ซึ่งการจัดฟันด้วยที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อยก็คือ การจัดฟันที่มีเครื่องมือแบบติดแน่น ซึ่งการจัดฟันในรูปแบบนี้ เป็นการจัดฟันแบบนี้เป็นแบบมาตรฐานที่นิยมจัดกันทั่วไป และต้องเข้าพบทันตแพทย์จัดฟันทุกๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน และการจัดฟันแบบนี้มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดฟันชนิด รวมไปถึงสีสันของยางที่มีให้เลือกใช้ได้หลากหลายอีกด้วย และในปัจจุบันนี้การจัดฟันก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา ทำให้การจัดฟันมีหลากหลายชนิดมากยิ่งถึง แม้กระทั่งการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 12-15 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ฟันน้ำนมหลุดหมดแล้ว และมีฟันแท้ขึ้น และยังเป็นช่วงที่ขากรรไกรกำลังเจริญเติบโตด้วย

ซึ่งในวันนี้เราจะมารพูดถึงข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ซึ่งเด็กในวัยนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของบุตรหลาของท่านให้มากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงแม้ว่าการจัดฟันในเด็ก จะยังไม่มีความจำเป็นมากนัก แต่ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีสัญญาณว่าจะเกิดปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ก็ควรพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจรวจฟันกับทันตแพทย์ หรือถ้าหากมีปัญหาในเรื่องของรูปร่างของฟันก็สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้าไปปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดที่อาจจะสงสัยในเรื่องของการจัดฟันในเด็กว่ามีข้อดีอย่างไร ทางคลินิกจะมาตอบในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก ว่า เมื่อเด็กเข้ารับการจัดฟันแล้วจะส่งผลดีอย่างไรต่อสุขภาพช่องปาและฟันของเด็กบ้าง ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันนั้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันในรูปแบบไหน หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า จะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันมีฟันที่เรียงตัวสวยขึ้น มีรอยยิ้มที่สวยงาม ช่วยให้เด็กมีความสดใสสมวัย ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และเพิ่มความมั่นใจ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสบฟันที่ดีขึ้น สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าเดิม สำหรับในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ก็จะทำให้เด็กมีสุขภาพปากและฟันดีขึ้น การทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ส่งผลทำให้ฟันผุน้อยลง และจุดเด่นของการจัดฟันในเด็กก็คือ ช่วยปรับโครงหน้าให้เข้าที่มากยิ่งขึ้น นี่ก็คือข้อดีของการจัดฟันในเด็ก ที่จะช่วยทำให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย เป็นที่ประทับใจต่อผู้พบเห็น

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟัน ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดของการจัดฟันในเด็กได้ที่คลินิกได้ ทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก และยังมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ และอยากแนะนำ ปลูกฝังให้เด็กๆทุกคนใส่ใจ ตระหนักถึงเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้มากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาช่องปากในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: มะเร็ง (Cancer)

มะเร็ง* เป็นเนื้องอกชนิดร้ายที่กลายมาจากเนื้อเยื่อปกติของร่างกาย มีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว อยู่เหนือการควบคุมของร่างกาย และทำลายอวัยวะต่าง ๆ เกิดอาการเจ็บป่วยและภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่าง ๆ

เซลล์และเนื้อเยื่อแทบทุกส่วนของร่างกายอาจกลายเป็นมะเร็งได้ แต่ที่พบบ่อย ได้แก่ ตับ ปอด เต้านม ลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ปากมดลูก ต่อมลูกหมาก ต่อมน้ำเหลือง กระเพาะปัสสาวะ ช่องปาก เม็ดเลือดขาว เยื่อบุมดลูก รังไข่ กระเพาะอาหาร ไทรอยด์ หลอดอาหาร ตับอ่อน สมอง โพรงหลังจมูก ไต ถุงน้ำดี กล่องเสียง**

ส่วนใหญ่พบในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่ก็อาจพบในเด็ก และคนหนุ่มสาวได้

ในปัจจุบันมะเร็งเป็นสาเหตุการตายในอันดับแรก ๆ ของคนไทย

*มีชื่อเรียกอื่น ได้แก่ เนื้อร้าย เนื้องอกชนิดร้าย carcinoma, malignant tumor

มะเร็งที่พบบ่อย 10 อันดับแรก (นับรวมกันเป็นร้อยละ 69.8 ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด) ได้แก่ มะเร็งตับ (ร้อยละ 14.4), มะเร็งปอด (ร้อยละ 12.4), มะเร็งเต้านม (ร้อยละ 11.6), มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง (ร้อยละ 10.9), มะเร็งปากมดลูก (ร้อยละ 4.8), มะเร็งต่อมลูกหมาก (ร้อยละ 4.5), มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (ร้อยละ 3.7), มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (ร้อยละ 2.6), มะเร็งช่องปาก (ร้อยละ 2.5), มะเร็งเม็ดเลือดขาว (ร้อยละ 2.4)

มะเร็งที่พบบ่อย 5 อันดับแรกในผู้ชาย (นับรวมกันเป็นมากกว่า ร้อยละ 60 ของผู้ป่วยมะเร็งในผู้ชายทั้งหมด) ได้แก่ มะเร็งตับ (ร้อยละ 19.6), มะเร็งปอด (ร้อยละ 16.5), มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง (ร้อยละ 11.4), มะเร็งต่อมลูกหมาก (ร้อยละ 9.2), มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (ร้อยละ 4)

มะเร็งที่พบบ่อย 5 อันดับแรกในผู้หญิง (นับรวมกันเป็นมากกว่า ร้อยละ 60 ของผู้ป่วยมะเร็งในผู้หญิงทั้งหมด) ได้แก่ มะเร็งเต้านม (ร้อยละ 22.8), มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง (ร้อยละ 10.7), มะเร็งปากมดลูก (ร้อยละ 9.4), มะเร็งตับ (ร้อยละ 9.4) มะเร็งปอด (ร้อยละ 8.5)

สาเหตุ

เซลล์มะเร็ง คือ เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อในร่างกายที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ในเซลล์ ทำให้กลายพันธุ์เป็นเซลล์ที่มีการแบ่งตัวและแพร่กระจายได้รวดเร็ว

สาเหตุของการเกิดเซลล์มะเร็งยังไม่ทราบแน่ชัด เชื่อว่าเป็นความผิดปกติที่ถ่ายทอดมาจากบิดามารดามาแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลังจากการได้รับสารก่อมะเร็งหรือสิ่งระคายเคืองเรื้อรัง เกิดการกลายพันธุ์ทีละน้อย จนในที่สุดกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งอาจใช้เวลานานนับสิบ ๆ ปี นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำหน้าที่คอยตรวจสอบและกำจัดเซลล์มะเร็งที่ก่อตัวขึ้น ซึ่งหากบกพร่องก็จะปล่อยให้เซลล์มะเร็งไม่ถูกกำจัดและแบ่งตัวเจริญเติบโตเป็นก้อนมะเร็งในที่สุด

ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง* สามารถแบ่งเป็น 2 พวกใหญ่ ๆ ดังนี้

1. ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น

    ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หากบกพร่อง (เช่น อายุมาก ป่วยเป็นเอดส์) ก็มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็ง
    เชื้อชาติ เช่น ชาวญี่ปุ่นเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมาก ชาวจีนเป็นมะเร็งโพรงหลังจมูก และหลอดอาหารมาก
    เพศ มะเร็งตับ มะเร็งปอด พบมากในผู้ชาย มะเร็งของเต้านม มะเร็งไทรอยด์ พบมากในผู้หญิง
    อายุ มะเร็งส่วนใหญ่เกิดในวัยกลางคนและวัยสูงอายุ แต่บางชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งสมองบางชนิด มะเร็งลูกตาในเด็ก มะเร็งไตชนิดเนื้องอกวิล์มส์ พบมากในเด็ก มะเร็งกระดูกพบในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว
    กรรมพันธุ์ มะเร็งเต้านมบางชนิด มะเร็งต่อมไทรอยด์บางชนิด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งรังไข่ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งอัณฑะ มะเร็งลูกตาในเด็ก พบว่ามีความสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์ คือมักมีประวัติว่ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นมะเร็งชนิดเดียวกันด้วย

ในปัจจุบันพบว่ามี “ยีนมะเร็งเต้านม (breast cancer gene)” ทำให้ผู้ที่รับการถ่ายทอดยีนนี้จากบรรพบุรุษมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ได้

นอกจากนี้พบว่า ยีนที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดที่เรียกว่า “Hereditary nonpolyposis colorectal cancer (HNPCC)” หรือ “Lynch syndrome” ทำให้ผู้ที่รับการถ่ายทอดยีนนี้จากบรรพบุรุษมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งทางเดินอาหาร (กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ตับ) มะเร็งทางเดินปัสสาวะ (ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ) มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งสมอง มะเร็งผิวหนัง เป็นต้น


2. ปัจจัยภายนอกร่างกาย ได้แก่

(2.1) ปัจจัยทางกายภาพต่าง ๆ เช่น

    ฟันปลอมที่ไม่กระชับ เวลาเคี้ยวอาหารจะมีการเสียดสีกับเหงือกหรือเพดานปาก นาน ๆเข้าอาจทำให้เกิดมะเร็งของเหงือก หรือเพดานปากได้
    การกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มร้อนจัดเป็นประจำ จะมีการระคายเคืองบริเวณหลอดอาหาร นาน ๆ เข้าอาจทำให้เป็นมะเร็งของหลอดอาหารได้
    รังสีต่าง ๆ ถ้าร่างกายได้รับเป็นระยะนาน ๆ ก็อาจเกิดมะเร็งอวัยวะต่าง ๆ ได้
    แสงอัลตราไวโอเลต (แสงแดด) อาจทำให้เป็นมะเร็งของผิวหนังและริมฝีปาก

(2.2) สารเคมี ในปัจจุบันพบสารก่อมะเร็ง (carcinogen) มากกว่า 450 ชนิด อยู่ในรูปของอาหาร พืช สารเคมีต่าง ๆ เช่น

    สารหนู ทำให้เป็นมะเร็งของผิวหนัง
    สารใยหิน (asbestos) ทำให้เกิดมะเร็งปอด มะเร็งไต
    สารนิกเกิล (nickel) ทำให้เกิดมะเร็งปอด มะเร็งโพรงไซนัส
    บุหรี่ มีสารน้ำมันดิน (ทาร์) ซึ่งประกอบด้วยสารในกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ที่มีชื่อว่า เบนซ์ไพรีน (benzpyrene) ทำให้เกิดมะเร็งปอด กล่องเสียง ช่องปาก ทอนซิล ผิวหนัง เต้านม ปากมดลูก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน ไต กระเพาะปัสสาวะ
    แอลกอฮอล์ ทำให้เกิดมะเร็งตับ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ กล่องเสียง ช่องปาก ทอนซิล เต้านม
    สารฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) ทำให้เกิดมะเร็งจมูก มะเร็งโพรงหลังจมูก
    เบนซิน ทำให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว ตับอ่อน
    การเคี้ยวหมากหรือการจุกยาฉุน นอกจากจะก่อให้เกิดการระคายเรื้อรังแล้วยังมีสารเคมีที่ทำให้เป็นมะเร็งช่องปากได้
    สารไนโตรซามีน (nitrosamine) ในอาหารโปรตีนหมักหรือเนื้อสัตว์หมักเกลือหรือดินประสิวหรือรมควัน ทำให้เกิดมะเร็งตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ตับ โพรงหลังจมูก
    ดีดีที เมื่อเข้าในร่างกาย อาจเปลี่ยนเป็นสารไดไนโตรซามีน ซึ่งมีฤทธิ์เหมือนไนโตรซามีน
    สีย้อมผ้าที่ใช้แต่งสีในอาหารหรือขนม ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ทางเดินน้ำดี

(2.3) ฮอร์โมน ฮอร์โมนเอสโทรเจน มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านม รังไข่ เยื่อบุมดลูก ฮอร์โมนแอนโดรเจน (เทสโทสเทอโรน) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก

(2.4) การติดเชื้อ เช่น

    การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีหรือซี มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเซลล์ตับ
    การติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (human papilloma virus/HPV) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปากมดลูก ช่องปาก องคชาต
    การติดเชื้อไวรัสเอชทีแอลวี-1 (human T-cell leukemia virus/HTLV-1) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
    การติดเชื้อไวรัสอีบีวี (Epstein-Barr virus/EBV) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดเบอร์กิต (Burkitt’s lymphoma) และมะเร็งโพรงหลังจมูก
    การติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งหลอดเลือด ที่เรียกว่า Kaposi’s sarcoma (ดูข้อมูล "โรคเอดส์" เพิ่มเติม)
    การติดเชื้อเอชไพโลไร (Helicobacter pylori/H.pylori) มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร

(2.7) อาหาร

    ภาวะขาดอาหาร เช่น โรคตับแข็ง ซึ่งเกิดจากการขาดสารโปรตีน จะกลายเป็นมะเร็งตับได้ง่าย
    การบริโภคอาหารพวกเนื้อแดงและไขมันสัตว์มาก ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน ต่อมลูกหมาก
    การบริโภคเนื้อเค็ม ปลาเค็มหรือหมักเกลือ ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก โพรงหลังจมูก
    การบริโภคเนื้อสัตว์ปิ้งย่าง (ซึ่งมีสารเบนซ์ไพรีน) หรือผักดอง ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
    การกินผักและผลไม้น้อยมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปอด หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ปากมดลูก ตับอ่อน

(2.8) ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านม รังไข่ เยื่อบุมดลูก กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน ต่อมลูกหมาก ไต

*ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง เรียกว่า ปัจจัยเสี่ยง (risk factors) ต่อการเกิดมะเร็ง ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง แต่เมื่อดูเพียงปัจจัยเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่ง (เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์จัด หรือการมีประวัติว่ามีพ่อแม่หรือพี่น้องเป็นมะเร็ง) ก็ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มคนที่มีปัจจัยเสี่ยงนั้น ๆ จะกลายเป็นมะเร็งทุกคนไป หากแต่มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงนั้น ๆ (จะมากเป็นกี่เท่าย่อมขึ้นกับมะเร็งแต่ละชนิด) เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จะเป็นมะเร็งปอด แต่ผู้ที่สูบบุหรี่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่เป็นมะเร็งปอด ตรงกันข้าม ผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่เป็นมะเร็งปอด แต่ก็มีบางคนที่เป็นมะเร็งปอด (ซึ่งเกิดจากปัจจัยอื่น) ทั้งนี้ เนื่องจากมะเร็งส่วนใหญ่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ามีสาเหตุอะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร เพียงแต่สันนิษฐานว่ามีความสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงอะไร ซึ่งมักจะมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างร่วมกันที่จะทำให้เป็นมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ก็จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เลี่ยงได้ (เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน การขาดการออกกำลังกาย เป็นต้น) ให้มากที่สุด

อาการ

การแบ่งระยะของโรคมะเร็ง

โดยทั่วไป แบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 เซลล์มะเร็งจำกัดเฉพาะภายในอวัยวะที่เป็นมะเร็ง เช่น

    มะเร็งปากมดลูก จำกัดอยู่เฉพาะภายในปากมดลูก
    มะเร็งปอด จำกัดอยู่ภายในปอด อาจลุกลามถึงหลอดลม หรือเยื่อหุ้มปอดชั้นใน (visceral pleura) แต่ยังไม่ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง
    มะเร็งเต้านม มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางต่ำกว่า 2 ซม. และยังไม่ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง


ระยะที่ 2 เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังเนื้อเยื่อโดยรอบ เช่น

    มะเร็งปากมดลูก ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่ติดกับปากมดลูก รวมทั้งช่องคลอดส่วนบน แต่ยังไม่ลุกลามเข้าอุ้งเชิงกราน
    มะเร็งปอด ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณขั้วปอดหรือรอบ ๆ หลอดลม หรือลุกลามไปยังผนังทรวงอก (กระดูกซี่โครง) กะบังลม เยื่อหุ้มปอดชั้นนอก (parietal pleura) หรือเยื่อหุ้มหัวใจชั้นนอก
    มะเร็งเต้านม ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ข้างเดียวกัน หรือก้อนมะเร็งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 5 ซม.


ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งแพร่ไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียง เช่น

    มะเร็งปากมดลูก แพร่ไปยังช่องคลอดส่วนล่าง หรือเนื้อเยื่อภายในอุ้งเชิงกราน
    มะเร็งปอด แพร่ไปยังผนังทรวงอก กะบังลม เยื่อหุ้มปอดชั้นนอก เยื่อหุ้มหัวใจชั้นนอก ร่วมกับต่อมน้ำเหลืองบริเวณขั้วปอดหรือรอบ ๆ หลอดลม หรือแพร่ไปยังเนื้อเยื่อภายในประจันอก (mediasternum) หัวใจ ท่อลม หลอดอาหาร หรือกระดูกสันหลัง หรือแพร่ไปยังต่อมน้ำเหลืองที่แอ่งไหปลาร้า หรือประจันอกข้างเดียวกัน ต่อมน้ำเหลืองขั้วปอดหรือประจันอกในทรวงอกข้างตรงข้าม
    มะเร็งเต้านม แพร่ไปยังผนังทรวงอก และ/หรือผิวหนัง (เป็นแผลหรือตุ่มหลายตุ่มบนผิวหนังข้างเดียวกับเต้านมที่เป็นมะเร็ง) หรือพบว่ามีก้อนมะเร็งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 5 ซม. ร่วมกับการแพร่ไปที่ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ข้างเดียวกัน หรือพบว่ามีต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้มีลักษณะยึดติดกันหลายก้อน หรือยึดติดกับเนื้อเยื่อข้างเคียง หรือมีการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองที่มีชื่อว่า internal mammary nodes หรือ infraclavicular nodes หรือ lateral supraclavicular nodes 

ระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปยังอวัยวะที่อยู่ไกลออกไป เช่น

    มะเร็งปากมดลูก แพร่ไปยังกระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับ ปอด กระดูก
    มะเร็งปอด แพร่ไปยังสมอง ไขสันหลัง ตับ กระดูกทั่วร่างกาย
    มะเร็งเต้านม แพร่ไปยังปอด ตับ กระดูก

อาการเฉพาะที่ของมะเร็ง (สัญญาณอันตรายของโรคมะเร็ง)

1. มีตุ่ม ไต ก้อนแข็ง ที่เป็นเรื้อรัง ไม่เจ็บ หรือโตขึ้นเรื่อย ๆ

    ถ้าพบตามผิวหนังทั่วไป เช่น บริเวณใบหน้า หู คอ หน้าอก หลัง แขน มือ เป็นต้น อาจเป็นมะเร็งผิวหนัง
    ถ้าพบเป็นก้อนแข็งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 ซม. ที่ข้างคอ แอ่งไหปลาร้า รักแร้ หรือขาหนีบ อาจเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือมะเร็งส่วนอื่นที่แพร่กระจายมาที่ต่อมน้ำเหลือง
    ถ้าพบก้อนแข็งที่ริมฝีปาก ต่อมไทรอยด์ เต้านม หรืออัณฑะ กระดูก อาจเป็นมะเร็งช่องปาก มะเร็งไทรอยด์ มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งอัณฑะ มะเร็งกระดูก
    ถ้าคลำได้ก้อนแข็งในช่องท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา อาจเป็นมะเร็งตับ บริเวณใต้ลิ้นปี่หรือเหนือสะดือ อาจเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อนบริเวณท้องน้อย อาจเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

2. ถ้าเป็นแผลเรื้อรัง (นานเกิน 2-3 สัปดาห์) ตามผิวหนัง อาจเป็นมะเร็งผิวหนัง ในช่องปาก อาจเป็นมะเร็งช่องปาก

3. หูด ไฝ ปาน แผลเป็น ที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น สีเปลี่ยน โตเร็ว แตกเป็นแผล มีเลือดออก เป็นต้น อาจเป็นมะเร็งผิวหนัง

4. มีเลือดออก หรือสิ่งไหลออก (discharge) ตามที่ต่าง ๆ

    จ้ำเขียวพรายย้ำตามผิวหนัง อาจเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
    เลือดกำเดาไหล หรือมีเลือดปนน้ำมูก อาจเป็นมะเร็งจมูก มะเร็งโพรงหลังจมูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว
    เลือดออกจากปาก อาจเป็นมะเร็งช่องปาก มะเร็งเม็ดเลือดขาว
    ไอเป็นเลือด หรือมีเลือดปนเสมหะ อาจเป็นมะเร็งปอด
    อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ อาจเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้เล็ก
    ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด หรือถ่ายเป็นมูกปนเลือดเรื้อรัง อาจเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
    ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด อาจเป็นมะเร็งไต มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก
    เลือดออกทางช่องคลอด หรือมีประจำเดือนกะปริดกะปรอยหรือออกมากกว่าปกติ หรือมีตกขาว อาจเป็นมะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุมดลูก
    เลือดหรือสิ่งไหลออกจากหัวนม อาจเป็นมะเร็งเต้านม

5. ไอเรื้อรัง เกิน 3 สัปดาห์ อาจเป็นมะเร็งปอด

6. เสียงแหบ หรือเจ็บคอเกิน 3 สัปดาห์ อาจเป็นมะเร็งช่องปาก มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งทอนซิล มะเร็งปอด

7. คัดจมูก แน่นจมูกเรื้อรัง อาจเป็นมะเร็งจมูก มะเร็งโพรงหลังจมูก

8. กลืนลำบาก อาจเป็นมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งช่องปาก มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งปอด

9. เจ็บหน้าอกเรื้อรัง อาจเป็นมะเร็งปอด มะเร็งตับ

10. อาเจียน ปวดท้อง แสบท้อง แน่นท้อง มีลมในท้อง หรือท้องมาน (ท้องบวม) อาจเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งรังไข่

11. ดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง) อาจเป็นมะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้เล็ก

12. ถ่ายอุจจาระเป็นแท่งดินสอ ท้องเดินเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง หรือท้องเดินสลับท้องผูก อาจเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

13. ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะลำเล็ก หรือไม่พุ่ง เวลารู้สึกปวดปัสสาวะต้องรีบเข้าห้องน้ำทันที อาจเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งรังไข่

14. ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ ชัก หรือเห็นภาพซ้อน อาจเป็นมะเร็งสมอง (ดูข้อมูล “โรคเนื้องอกสมอง” ประกอบ)

15. แขนหรือขาชา หรืออ่อนแรง อาจเป็นมะเร็งสมอง (ดูข้อมูล “โรคเนื้องอกสมอง” ประกอบ) มะเร็งไขสันหลัง (ดูข้อมูล “โรคเนื้องอกไขสันหลัง” ประกอบ)

16. ปวดหลังเรื้อรัง อาจเป็นมะเร็งกระดูกสันหลัง มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับอ่อน

17. กระดูกบวม ข้อบวม หรือปวดกระดูก อาจเป็นมะเร็งกระดูก

18. ตาดำเห็นเป็นสีขาววาวคล้ายตาแมว อาจเป็นมะเร็งลูกตาในเด็ก

ภาวะแทรกซ้อน

เมื่อมะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะไกลจากตำแหน่งที่เป็น เช่น ไปที่สมอง ปอด ตับ กระดูก ไขสันหลัง ก็จะมีอาการต่าง ๆ ตามอวัยวะที่พบ เช่น หอบเหนื่อย (ปอด) ดีซ่าน (ตับ) ปวดหลัง (กระดูกสันหลัง) ปวดศีรษะ เดินเซ แขนขาชาหรืออ่อนแรงซีกหนึ่ง ชัก (สมอง) แขนหรือขาชาและอ่อนแรงข้างหนึ่ง (ไขสันหลัง) เป็นต้น และระยะสุดท้ายอาจมีอาการเจ็บปวดรุนแรงร่วมด้วย

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจพิเศษ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจอุจจาระ เอกซเรย์ ตรวจอัลตราซาวนด์ ตรวจสแกน (scan) ใช้กล้องส่องตรวจ (scopy) ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และทำการตรวจทางพยาธิวิทยา ได้แก่ การตรวจหาเซลล์มะเร็ง (cytology) และการตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy)

นอกจากเป็นการยืนยันการวินิจฉัยโรคมะเร็งแล้ว การตรวจพิเศษดังกล่าวยังสามารถระบุชนิดของเซลล์มะเร็งและระยะของโรค ซึ่งมีผลในการทำนายโรค (ว่ารุนแรงเพียงใด) และการวางแผนการรักษา


การรักษาโดยแพทย์

ส่วนใหญ่จะใช้วิธีผ่าตัดนำก้อนมะเร็งออกไปให้มากที่สุดเป็นหลัก ยกเว้นในรายที่เป็นระยะท้ายที่มะเร็งแพร่กระจายไปทั่วร่างกายแล้ว ก็อาจไม่ทำผ่าตัดก้อนมะเร็งออก แต่อาจผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะแทรกซ้อนเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมาน หรือในรายที่เป็นมะเร็งตรงตำแหน่งที่ผ่าตัดไม่ได้ ก็อาจเลือกใช้วิธีอื่นในการรักษา นอกจากการผ่าตัดแล้ว แพทย์อาจเลือกให้การรักษาด้วยวิธีอื่น ได้แก่

    รังสีรักษาหรือรังสีบำบัด (radiation therapy) ได้แก่ การฉายรังสี หรือใส่แร่เรเดียมซึ่งเป็นกัมมันตรังสีตรงบริเวณที่เป็นมะเร็ง เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง ทำให้ก้อนมะเร็งยุบตัวลงและป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจาย นิยมใช้ร่วมกับการผ่าตัด บางครั้งอาจใช้เป็นวิธีหลักแทนการผ่าตัด
    เคมีบำบัด (chemotherapy) เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีทั้งยาชนิดฉีดเข้าหลอดเลือด และชนิดกิน มักใช้ร่วมกับการผ่าตัดหรือรังสีรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งแพร่กระจายหรือเป็นก้อนโต บางกรณี เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ใช้เป็นวิธีหลักในการรักษาแทนวิธีอื่น เคมีบำบัดอาจมีผลข้างเคียง ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง เม็ดเลือดขาวต่ำ (ติดเชื้อง่าย) เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดต่ำ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นอยู่เพียงชั่วคราว เมื่อหยุดยาแล้ว อาการเหล่านี้ก็จะหายไปได้เอง
    การรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy) เป็นการให้ยา (มีทั้งชนิดฉีดเข้าหลอดเลือด และชนิดกิน) ไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยไปทำปฏิกิริยากับโมเลกุลเป้าหมายจำเพาะ (targeted molecule) ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง (ไม่ใช่กับเซลล์ปกติ) ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody), กลุ่มยาที่มีโมเลกุลเล็ก (small molecules) เป็นต้น สามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้หลายชนิด อาทิ มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งรังไข่ มะเร็งไต มะเร็งศีรษะและลำคอ เป็นต้น ทั้งในระยะแพร่กระจายและไม่แพร่กระจาย
    อิมมูนบำบัด (immunotheraphy) เป็นการให้สารเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง เช่น สารภูมิต้านทานกลุ่มโมโนโคลนอลแอนตีบอดี (monoclonal antibody), อินเตอร์เฟอรอน (interferon), อินเตอร์ลิวคิน-2 (interleukin-2), Granulocyte-macrophage colony-stimulating factor (GM-CSF) เป็นต้น
    ฮอร์โมนบำบัด (hormone therapy) คือการใช้ฮอร์โมนในการรักษามะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก
    การปลูกถ่ายไขกระดูก/เซลล์ต้นกำเนิดจากเลือด (bone-marrow/stem cell transplantation) สำหรับมะเร็งเม็ดเลือดขาว

วิธีบำบัดเหล่านี้มักจะใช้ร่วมกันหลาย ๆ วิธี มากกว่าใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเพียงอย่างเดียว

ผลการรักษา ขึ้นกับชนิดของมะเร็ง ระยะความรุนแรงของโรค และสภาพของผู้ป่วย (ความร่วมมือในการรักษา การปฏิบัติตน ความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย กำลังใจ เป็นต้น)

มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งช่องปาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิด มะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งโพรงหลังจมูก มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งกระดูก เป็นต้น ถ้าหากได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม อาจมีชีวิตอยู่ได้นาน หรือหายขาดได้

ส่วนมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งรังไข่ มะเร็งไต ซึ่งมักตรวจพบระยะท้ายเมื่อมีอาการชัดเจนแล้ว การรักษามักไม่ได้ผลดี ส่วนใหญ่เป็นการรักษาแบบประทังอาการ (palliative care) เพื่อลดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน ผู้ป่วยมักมีชีวิตโดยเฉลี่ยประมาณ 6-12 เดือน แต่บางรายก็อาจอยู่ได้นานหลายปี

ในปัจจุบัน มีวิธีการรักษามะเร็งและยารักษามะเร็งชนิดใหม่ ๆ ช่วยให้ผู้ป่วยแม้เป็นมะเร็งระยะท้ายสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีชีวิตยืนยาวมากขึ้นกว่าเดิม


การดูแลตนเอง

หากมีอาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นมะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก  กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

5
ติดต่อได้ทุกเวลาที่ต้องการความสะดวกในการจอง รถรับจ้าง ประจวบคีรีขันธ์ 24 ชั่วโมง

การขนส่งสินค้าและวัสดุเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการทางธุรกิจและการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ในปัจจุบันที่การเคลื่อนย้ายของวัสดุเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์ 24 ชั่วโมงกลายเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับความต้องการในการ ขนส่งสินค้า ขนย้ายบ้าน หอพัก คอนโด ขนย้ายเครื่องจักร ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่การค้าและการเคลื่อนย้ายสินค้ามีความต้องการสูงมาก หากคุณกำลังมองหาบริการที่สามารถติดต่อได้ทุกเวลาและมีความสะดวกสบายในการจอง รถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์  24 ชั่วโมง นี่คือบทความที่คุณต้องการ!รถกระบะรับจ้างขนสินค้าออนไลน์

1. ความสะดวกและใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์  24 ชั่วโมงไม่เพียงแค่การขนส่งสินค้าในเวลาที่คุณต้องการ แต่ยังมีความสำคัญในการติดต่อและจองบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงตามความสะดวกของคุณ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน คุณสามารถใช้บริการนี้ทุกเวลาที่คุณต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา

2. ระบบการจองที่สะดวก

การจอง รถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์ ไม่ควรทำให้คุณยุ่งยาก บริการที่มีระบบการจองที่สะดวกสบายจะทำให้คุณสามารถทำการจองได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน มีแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ทำให้คุณสามารถทำการจองด้วยคลิกเดียว ระบบนี้ยังสามารถแจ้งเตือนคุณเมื่อรถกำลังเข้ามาใกล้และเตรียมพร้อมที่จะรับของ

3. การติดต่อสะดวกผ่านช่องทางหลายชนิด

บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์  24 ชั่วโมงควรมีการติดต่อที่หลายชนิด เช่น โทรศัพท์ แชทออนไลน์ หรืออีเมล เพื่อให้คุณสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ

4. ความปลอดภัยและการติดตาม

บริการขนส่งที่ยาวนานและมีความเชี่ยวชาญจำเป็นต้องมีการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการติดตามของสินค้าอย่างสูง การใช้ระบบการติดตามที่ทันสมัยเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการขนส่ง ระบบการติดตามที่ทันสมัยทำให้คุณสามารถมีมุมมองแบบเรียลไทม์ของตำแหน่งปัจจุบันของสินค้าได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ คุณยังสามารถตรวจสอบสถานะการขนส่ง วันเวลาที่คาดว่าจะถึง และข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง การรักษาความปลอดภัยของสินค้าเป็นพิเศษ บริการที่ดีควรมีมาตรการที่เชื่อถือได้เพื่อปกป้องสินค้าของคุณ


5. บริการที่คุ้มค่าและไม่มีค่าธรรมเนียมที่ซ่อนเร้น

บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์  24 ชั่วโมงควรมีโปรโมชั่นและราคาที่ทำให้คุณรู้สึกคุ้มค่า และไม่มีค่าธรรมเนียมที่ไม่ชัดเจนที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง

บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์  24 ชั่วโมงไม่เพียงแค่ทำให้คุณได้รับสินค้าของคุณทันเวลา แต่ยังมีความสำคัญในความสะดวกสบายในการจอง ติดต่อ และการเก็บข้อมูลที่ทันสมัยและครบถ้วน บทความนี้จึงหวังเพื่อช่วยคุณทราบถึงคุณสมบัติที่ควรมีในบริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์  24 ชั่วโมง เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การขนส่งที่สะดวกสบายและปลอดภัยที่สุดขนย้ายเครื่องจักร

ความหลากหลาย บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์

การขนส่งสินค้าทุกขนาดและทุกน้ำหนักเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจและผู้ใช้ทั่วไปในประจวบคีรีขันธ์ บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์ พีชภูรีขนส่ง ที่มีความหลากหลายในทุกขนาดและน้ำหนักกลายเป็นคำตอบที่ดีเยี่ยมสำหรับความต้องการที่หลากหลายนี้ นี้คือเหตุผลที่บริการนี้เป็นที่ต้องการในประจวบคีรีขันธ์


1. ความสามารถในการขนส่งทุกขนาด

บริการรถรับจ้างขนของในประจวบคีรีขันธ์ที่มีความสามารถในการขนส่งสินค้าทุกขนาด ทั้งจากขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ทำให้ธุรกิจและกิจกรรมในพื้นที่นี้สามารถทำงานได้โดยมีความสะดวก


2. การปรับตัวที่หลากหลาย

บริการนี้ไม่เพียงเตรียมพร้อมในการขนส่งสินค้าทุกขนาด แต่ยังมีทีมงานและรถรับจ้างที่ปรับตัวได้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าในจำนวนมากหรือขนาดใหญ่


3. บริการส่งถึงที่

ความหลากหลายในบริการรถรับจ้างขนของนี้ไม่เพียงแค่ขนส่งที่สถานที่ที่กำหนดไว้ แต่ยังสามารถจัดส่งถึงที่ต่าง ๆ ทั่วประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ธุรกิจที่ต้องการการกระจายสินค้าสามารถได้รับประโยชน์


4. การจัดการสินค้าที่ปลอดภัย

รถรับจ้างขนของที่มีความหลากหลายนี้มีการจัดการและควบคุมสินค้าอย่างเข้มงวด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าสินค้าของพวกเขาจะถูกดูแลอย่างดีที่สุด


5. การเลือกทางที่ดีที่สุด

ความหลากหลายในบริการรถรับจ้างขนของนี้ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขาได้ เช่น การขนส่งด่วน การขนส่งทางท่องเที่ยว หรือการขนส่งในกะทำการรับจ้างขนของ

การมีทุกขนาดทุกน้ำหนักและความหลากหลายใน บริการรถรับจ้างขนของประจวบคีรีขันธ์ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจและกิจกรรมในพื้นที่นี้ ทำให้สามารถเลือกใช้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการและทุกขนาดของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค้นพบประสบการณ์การขนส่งที่ไม่เหมือนใครในประจวบคีรีขันธ์! บริการรถรับจ้างขนของเรา ด้วยบริการ รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง ที่ปรับเพื่อตอบสนองทุกความต้องการ เราสามารถขนส่งทุกขนาดและน้ำหนักของสินค้าของคุณ ทั้งนี้ให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าของคุณจะถูกดูแลอย่างดีที่สุด การติดต่อเราเพื่อจองบริการได้ทุกเวลา 24 ชั่วโมง ผ่านทางโทรศัพท์ แชท หรืออีเมล คุณจะได้รับประสบการณ์การขนส่งที่รวดเร็ว ปลอดภัย และทันสมัย เชื่อมั่นได้ในบริการรถรับจ้างขนของเราเพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพที่ทันสมัยที่สุด!

ทีมงานของเราพร้อมให้บริการทุกเวลา 24 ชั่วโมง! กรุณาระบุรายละเอียดและความต้องการของคุณ เรายินดีที่จะช่วยเสมอภาคและทำให้ประสบการณ์ของคุณกับบริการรถรับจ้างขนของเราเป็นที่ประทับใจ ติดต่อเราได้

6
การตรวจฟันในเด็กเล็กก่อนเข้ารับการจัดฟันเด็ก

ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของลูกน้อย ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะที่เอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ สุขภาพฟันถือว่าเป็นสุขอนามัยเบื้องต้น ที่เด็กจะต้องรักษาความสะอาดให้ดี เพราะถ้าหากเกิดฟันผุแล้ว คงไม่ดีต่อตัวเด็กแน่ๆ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะพาเด็กไปพบทันตแพทย์ ก่อนที่ฟันน้ำนมจะขึ้นครบทั้งยี่สิบซี่ หรือเด็กมีอายุระหว่าง 2-3 ขวบ เมื่อไปพบทันตแพทย์ครั้งแรกนั้น ทันตแพทย์จะพุดคุยกับเด็กก่อน เพื่อสร้างความสนิทสนม สร้างทัศนคติที่ดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน จากนั้นก็จะแนะนำเครื่องมือในการทำฟันต่างๆให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยและไม่กลัว


จากนั้นจึงจะตรวจฟันเด็ก และให้คำแนะนำกับผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีรักษาความสะอาดฟันของเด็ก ตลอดจนอาหารที่ควรรับประทานและการใช้ฟลูออไรด์ ควรพาไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง นี่ถือว่าเป็นการเข้ารับการตรวจฟันทันตแพทย์ในเบื้องต้น เพื่อที่ทันตแพทย์จะได้แนะนำแนวทางในการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันให้เด็ก เพื่อสร้างความเข้าใจให้เด็กได้รับรู้ถึงความสำคัญของสุขภาพฟัน แต่สำหรับเด็กที่มีปัญหาในเรื่องของฟันนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก แต่หลายคนอจจะกังวลและไม่ทราบว่า จะต้องพูดให้เด็กทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาจึงอาจจะรู้สึกหนักใจ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของการพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจฟันก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวและปฏิบัติตัวก่อนพาบุตรหลานขรับการจัดฟันในเด็กกับทันตแพทย์จัดฟัน

ก่อนที่เราจะมาพูดถึงเรื่องของการพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจฟันก่อนเข้ารับการจัดฟัน ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องฟันน้ำนมของเด็กก่อน เพราะเนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนยังคิดว่า ฟันน้ำนมของเด็กนั้นไม่สำคัญ คิดว่าถ้าถอนทิ้งก็คงไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวก็มีฟันแท้ขึ้นมาแทน ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจผิด เพราะฟันน้ำนมมีบทบาทสำคัญมาก ต่อลักษณะการขึ้นของฟันแท้โดยตรงและถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะถาฟันน้ำนมของเด็กหลุดก่อนวัยอันควร ก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดภาวะฟันแท้หายได้เลย ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายและส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพฟันด้วย ดังนั้น เด็กในวัยประถมที่ยังมีฟันน้ำนมก็สามารถจัดฟันได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น หลายปัญหาอาจสามารถหลีกเลี่ยง หรือลดความรุนแรงได้


หากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ สำหรับ การตรวจฟันในเด็กก่อนที่จะเข้ารับการจัดฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองคงจะต้องสร้างทัศนคติที่ดี พูดให้เด็กเข้าใจถึงผลลัพธ์ของการมีสุขภาพฟันที่ดี เพื่อลดความกังวลในเด็กเมื่อต้องเข้าพทันตแพทย์ การพาเด็กไปพบทันตแพทย์มีส่วนช่วยป้องกันฟันผุให้เด็กได้ โดยที่เด็กจะได้ประโยชน์จากการตรวจสภาพช่องปาก และจะทำให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อการดูแลฟันเด็กในแต่ละคน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้เรียนรู้ หรือฝึกการแปรงฟันให้เด็กได้ และยังมีส่วนช่วยให้เด็กเกิดความคุ้นเคยกับทันตแพทย์และให้ความร่วมมือที่ดีต่อการรักษาฟันต่อไป เมื่อถึงเวลาที่เข้ารับการจัดฟัน เด็กจะได้มีความคุ้นชินและลดคาวมกังวลลงได้นั่นเอง

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาเด็กเข้ามาตรวจกับทันตแพทย์ของทางคลินิกได้เลย เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมที่จะคอยให้คำปรึกษาในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาด พร้อมกับช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อสุขภาพฟันให้เด็กได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสุขอนามัยในช่องปาก เพื่อให้เด็กได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีรรอยิ้มที่สดใส มีพัฒนาการที่ดี สสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ทำกิจกรรมในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่และมีความสุข

7
รถขนของไปต่างจังหวัด ย้ายของทั้งที บริการดีต้อง รถรับจ้างฉะเชิงเทรา

จะ ขนของ ย้ายของแต่ละครั้ง เชื่อว่าหลายคนต้องมีทั้งความตื่นเต้น ปนกับความกังวลใช่ไหมค่ะ? เพราะไม่ว่าจะย้ายบ้านใหม่ ย้ายหอพัก ก็ล้วนแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับ ความเหนื่อย และ ความวุ่นวาย ที่หลายคนแทบจะไม่อยากเจอ ความกังวลว่าของที่รักจะปลอดภัยหรือไม่ จะถึงที่หมายตรงเวลาหรือเปล่า

แต่รู้ไหมค่ะว่าปัญหาเหล่านี้จะหมดทันที ถ้าได้รู้จักกับ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา ผู้ช่วยคนสำคัญที่พร้อมเปลี่ยนการย้ายของครั้งนี้ให้กลายเป็นเรื่องง่ายแบบคาดไม่ถึงเลยค่ะ ที่นี่ไม่ได้มีแค่ “รถรับจ้าง” แต่ยังมีทีมงานมืออาชีพที่ดูแลของทุกชิ้นเหมือนเป็นของตัวเอง ตรงต่อเวลา ยกง่าย วางเป็น และที่สำคัญราคาสบายกระเป๋า กลายเป็นประสบการณ์ที่คุณจะรู้สึกสบายใจตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าคุณกำลังคิดจะย้ายของทั้งที ลองมาสัมผัสบริการที่ใคร ๆ ก็พูดถึงกับขนส่ง แล้วคุณจะรู้ว่าการย้ายของ ก็สามารถสนุกและสบายใจกว่าที่คิดค่ะ

   
ทำไมต้องเลือก รถรับจ้างฉะเชิงเทรา

เวลาย้ายของ สิ่งที่หลายคนกลัวที่สุดคือ “ของเสียหาย” และ “ขนย้ายไม่ตรงเวลา” แต่เมื่อใช้บริการกับขนส่ง เรื่องเหล่านี้แทบไม่ต้องกังวล เพราะทีมงานมีประสบการณ์การขนย้ายมาอย่างยาวนาน ผ่านการขนทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้สำนักงาน ไปจนถึงของที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น ของแตกง่าย หรือของที่มีมูลค่าสูง สิ่งที่ทำให้ลูกค้าหลายคนรู้สึกอุ่นใจคือ

    ตรงต่อเวลา นัดกี่โมง มาถึงตรงนั้น ไม่ปล่อยให้รอ
    ทีมงานมืออาชีพ ช่วยยก ช่วยจัดวาง และดูแลของให้เหมือนเป็นของของตัวเอง
    รถสะอาด ปลอดภัย มีหลายขนาดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถบรรทุกเล็ก ไปจนถึงรถใหญ่สำหรับย้ายทั้งบ้าน
    ราคาคุยได้ ไม่คิดเกินจริง มีความยืดหยุ่นตามระยะทางและปริมาณของ

แค่ได้ยินก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ เพราะเวลาย้ายของ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา เราเข้าใจว่าคุณไม่ได้อยากได้แค่ “รถ” แต่อยากได้ “ผู้ช่วย” ที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

   
การย้ายของให้ง่าย ไม่เครียด

นอกจากการเลือก รถรับจ้างขนของ ที่ดีแล้ว การเตรียมตัวก่อนย้ายก็สำคัญเหมือนกัน ลองใช้ทริคง่าย ๆ เหล่านี้ดูครับ

    จัดของให้เป็นหมวดหมู่
    เขียนป้ายกำกับ
    เก็บของสำคัญติดตัว
    แจ้งรายละเอียดให้ชัดเจนกับผู้ให้บริการ

เมื่อเตรียมตัวแบบนี้ ประกอบกับการใช้บริการขนส่ง ก็รับรองได้เลยว่าการย้ายของจะราบรื่นแบบไร้กังวลอย่างแน่นอน

   
ความรู้สึกสบายใจที่มากกว่าแค่การขนของ

หลายครั้งที่ลูกค้าบอกว่า เมื่อใช้บริการกับ รถรับจ้างฉะเชิงเทราไม่ได้รู้สึกเหมือนจ้างคนแปลกหน้ามาช่วยยกของ แต่เหมือนมี เพื่อน หรือ ญาติ มาช่วยย้ายบ้านให้ต่างหาก เพราะทีมงานพูดจาดี เป็นกันเอง และพร้อมช่วยเหลือ ไม่ใช่แค่ยกของขึ้นรถแล้วขับไปส่งเท่านั้น แต่ยังช่วยจัดวางให้เรียบร้อย แนะนำวิธีขนลงที่ปลอดภัย และไม่รีบร้อนจนทำให้ของเสียหาย นี่แหละคะ คือความแตกต่างของการเลือกใช้รถรับจ้างที่ใส่ใจลูกค้า เพราะการ ย้ายบ้าน หรือ ย้ายหอพัก ไม่ใช่แค่การขนสิ่งของแต่คือการขนย้ายความทรงจำ และ ความผูกพันไปด้วย รับรองว่าเราไม่ทำให้ของที่คุณหวงแหนพังเสียหายแน่นอน


ขนส่ง ย้ายที่ไหนก็ไปด้วย

ไม่ว่าจะย้ายภายในเขตฉะเชิงเทราเอง หรือย้ายไปจังหวัดใกล้เคียง เช่น กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง หรือแม้แต่ต่างจังหวัดไกล ๆ รถรับจ้างฉะเชิงเทรา ก็พร้อมให้บริการครบทุกเส้นทาง เพราะมีรถหลากหลายขนาด กระบะ สี่ล้อใหญ่ รถหกล้อ และทีมงานพร้อมเดินทางไปกับคุณทุกที่ ลูกค้าหลายคนที่เคยใช้บริการต่างบอกตรงกันว่าประทับใจ จนอยากบอกต่อ เพราะไม่ว่าจะ ย้ายด่วน ย้ายเช้า หรือย้ายตอนเย็น ทีมงานก็พร้อมปรับเวลาให้ตามความสะดวกของลูกค้า

ย้ายของ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเหนื่อยหรือกังวลเสมอไป เพียงแค่เราเลือกผู้ช่วยที่ไว้ใจได้อย่าง รถรับจ้างฉะเชิงเทราทุกขั้นตอนจะง่ายขึ้น ด้วยความประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของทีมงาน ที่สำคัญคือความสบายใจที่ลูกค้าทุกคนได้รับกลับไป เพราะรู้สึกว่าของทุกชิ้นได้รับการดูแลอย่างดี

ดังนั้น หากใครกำลังมองหา รถรับจ้างขนของ ไม่ว่าจะย้ายหอ ย้ายบ้าน คอนโด หรือย้ายร้าน ลองให้ ขนส่ง เป็นตัวช่วยสิคะ แล้วคุณจะรู้ว่า จะย้ายของทั้งที ก็ไม่ใช่เรื่องเครียด แต่กลับเต็มไปด้วยความสบายใจและความมั่นใจตลอดเส้นทางคะ

8
บริหารจัดการอาคาร: การบำรุงรักษาระบบท่อน้ำและไฟฟ้า

การบำรุงรักษาระบบท่อน้ำและระบบไฟฟ้าเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ เพราะหากเกิดปัญหาอาจนำไปสู่ความเสียหายใหญ่หลวงต่อโครงสร้างบ้านหรืออันตรายต่อชีวิตได้ นี่คือแนวทางการบำรุงรักษาที่ทำได้ง่ายและเป็นประจำ:


1. การบำรุงรักษาระบบท่อน้ำ (Plumbing System Maintenance)

การดูแลท่อประปาและระบบระบายน้ำช่วยป้องกันการรั่วซึมและการอุดตัน

สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ
ระวังสิ่งอุดตัน:

อ่างล้างจาน: ห้ามเทไขมันหรือน้ำมันลงในท่อ โดยเด็ดขาด เพราะจะจับตัวแข็งและทำให้ท่ออุดตันได้ง่าย ควรเช็ดคราบมันออกจากจานก่อนล้างเสมอ

ห้องน้ำ: ติดตั้งตะแกรงดักเส้นผม ที่ท่อระบายน้ำในห้องอาบน้ำ และทำความสะอาดเส้นผมที่ติดอยู่เป็นประจำ

ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ: ทุก ๆ เดือนให้ เทน้ำร้อนจัด ลงในท่อระบายน้ำในอ่างล้างจานและอ่างล้างหน้าเพื่อช่วยละลายไขมันและคราบสบู่ที่เริ่มสะสม

ตรวจสอบการรั่วซึม: หมั่นสังเกตใต้ซิงค์ ใต้อ่างล้างหน้า และรอบ ๆ โถส้วม หากพบรอยน้ำหยดหรือคราบน้ำชื้น ๆ ควรรีบซ่อมทันที เพราะการรั่วซึมเล็กน้อยอาจนำไปสู่ปัญหาเชื้อราและโครงสร้างได้

สิ่งที่ควรตรวจสอบตามฤดูกาล/ปีละครั้ง
ตรวจสอบความดันน้ำ: หากความดันน้ำสูงเกินไป (เกิน 60 psi) อาจทำให้ท่อและอุปกรณ์ต่าง ๆ เสียหายได้เร็ว ควรพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์ลดแรงดันน้ำ (Pressure Regulator)

ทำความสะอาดเครื่องทำน้ำอุ่น: หากใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบมีถังเก็บน้ำ ควรให้ช่างมา ล้างตะกอน ที่สะสมอยู่ในถังทุกปี เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำความร้อน


2. การบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า (Electrical System Maintenance)

การดูแลระบบไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรและอัคคีภัย

สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ

ระวังปลั๊กไฟและสายไฟ:

หลีกเลี่ยงการใช้ปลั๊กพ่วงมากเกินไป: อย่าเสียบปลั๊กพ่วงเข้ากับปลั๊กพ่วงอื่น ๆ อีกต่อหนึ่ง (Daisy-Chaining) และไม่ควรเสียบอุปกรณ์ที่กินไฟสูง (เช่น เครื่องทำความร้อน, ไมโครเวฟ) เข้ากับปลั๊กพ่วง

ตรวจสอบสายไฟ: หมั่นตรวจสอบสายไฟว่ามีส่วนไหน ชำรุด ฉีกขาด หรือมีรอยไหม้ หรือไม่ หากพบให้รีบเปลี่ยนหรือซ่อมแซมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

ดูแลแผงสวิตช์ (เบรกเกอร์):

ทำความสะอาดฝุ่น: เช็ดทำความสะอาดฝุ่นรอบ ๆ กล่องเบรกเกอร์ (Consumer Unit/Panel) และตรวจสอบว่าไม่มีสิ่งของวางกีดขวาง

ทดสอบเบรกเกอร์ (RCD/ELCB): กดปุ่ม "Test" บนเบรกเกอร์หลัก (ถ้ามี) อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเบรกเกอร์ยังทำงานได้ตามปกติในการตัดวงจรเมื่อเกิดไฟรั่ว


สิ่งที่ควรตรวจสอบตามฤดูกาล/ปีละครั้ง

ตรวจสอบเครื่องปรับอากาศ: ทำความสะอาด แผ่นกรองอากาศ ของเครื่องปรับอากาศทุกเดือน และควรให้ช่างมืออาชีพมา ล้างทำความสะอาดครั้งใหญ่ (Deep Clean) อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพราะฝุ่นที่สะสมในแอร์ทำให้เครื่องทำงานหนัก กินไฟ และเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยน้ำ: เมื่อทำความสะอาดพื้นที่ใกล้ปลั๊กหรือสวิตช์ไฟ ควรใช้ ผ้าแห้ง หรือ ผ้าหมาด ๆ เช็ดเท่านั้น และต้องแน่ใจว่ามือแห้งสนิทก่อนสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าใด ๆ ค่ะ

9
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy)

ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) คือภาวะที่ระบบประสาทส่วนปลายซึ่งเชื่อมต่อระหว่างไขสันหลังกับส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รับความเสียหาย ส่งผลให้การส่งสัญญาณประสาทผิดปกติไป มักจะแสดงอาการที่มือและเท้าเป็นอันดับแรก


อาการหลักของปลายประสาทอักเสบ

อาการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นประสาทที่เสียหาย (ประสาทรับความรู้สึก, ประสาทสั่งการ, หรือประสาทอัตโนมัติ) อาการที่พบบ่อยได้แก่:

อาการชาและเหน็บชา: มักเริ่มที่ปลายมือและปลายเท้า แล้วลุกลามขึ้นไปตามแขนขา มีความรู้สึกเหมือนใส่ถุงมือหรือถุงเท้าตลอดเวลา

อาการปวด: มีลักษณะปวดแปลบเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต ปวดจี๊ดๆ ปวดแสบปวดร้อน หรือปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง

ความรู้สึกไวผิดปกติ: ผิวหนังไวต่อการสัมผัสมาก แม้สัมผัสเบาๆ ก็รู้สึกเจ็บปวด

กล้ามเนื้ออ่อนแรง: โดยเฉพาะที่เท้า ทำให้ยกเท้าไม่ขึ้น (Drop Foot) เดินลำบาก และอาจเกิดอาการกล้ามเนื้อฝ่อลีบในระยะยาว

เสียการทรงตัว: เดินเซ หกล้มง่าย เนื่องจากสูญเสียการรับรู้ตำแหน่งของข้อต่อ

อาการอื่น ๆ (จากประสาทอัตโนมัติ): เช่น เหงื่อออกผิดปกติ ท้องผูก ท้องเสีย ความดันโลหิตต่ำเมื่อลุกขึ้นยืน (ทำให้รู้สึกหน้ามืด)


สาเหตุสำคัญของปลายประสาทอักเสบ

ปลายประสาทอักเสบเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดคือ:

โรคเบาหวาน (Diabetes): เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังทำลายเส้นประสาทได้

การขาดวิตามิน: โดยเฉพาะวิตามินบี 1, บี 6, บี 12 และวิตามินอี

การบาดเจ็บหรือการกดทับเส้นประสาท: เช่น ภาวะเส้นประสาทถูกกดทับที่ข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome) หรือการอยู่ในท่าทางเดิมซ้ำๆ นานๆ

การติดเชื้อ: เช่น โรคเริม (Shingles), HIV

โรคทางภูมิคุ้มกัน (Autoimmune Diseases): เช่น โรค Sjogren's syndrome, โรค Lupus, Guillain-Barré syndrome

สารพิษและแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นเวลานาน หรือการสัมผัสสารพิษ เช่น ตะกั่ว

ผลข้างเคียงจากยา: เช่น ยาเคมีบำบัดบางชนิด ยาปฏิชีวนะบางประเภท

โรคไตและโรคตับ: ทำให้เกิดความผิดปกติของสมดุลเคมีในร่างกาย


แนวทางการรักษา

เป้าหมายหลักในการรักษาคือการจัดการกับสาเหตุที่แท้จริงเพื่อป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง และบรรเทาอาการปวดและความไม่สบายต่างๆ


การรักษาสาเหตุหลัก:

ผู้ป่วยเบาหวาน: ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอย่างเคร่งครัด

ผู้ที่มีปัญหาขาดวิตามิน: รับประทานอาหารเสริมวิตามินตามคำแนะนำของแพทย์

ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หนัก: งดหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์

กรณีมีการกดทับ: อาจต้องพิจารณาการทำกายภาพบำบัด หรือการผ่าตัดเพื่อลดแรงกดทับ

การบรรเทาอาการปวด (Pain Management):

ยาบรรเทาอาการปวดเส้นประสาท: แพทย์อาจสั่งยาเฉพาะทางที่ใช้รักษาอาการปวดจากเส้นประสาทโดยเฉพาะ เช่น ยาต้านอาการชัก (Gabapentin, Pregabalin) หรือยาต้านเศร้าบางชนิด (Duloxetine, Amitriptyline)

ยาแก้ปวดทั่วไป: เช่น Paracetamol หรือ NSAIDs มักไม่ได้ผลดีกับอาการปวดเส้นประสาท

ยาทาภายนอก: เช่น ครีมหรือแผ่นแปะที่มีส่วนผสมของ Capsaicin หรือ Lidocaine


การบำบัดและฟื้นฟู:

กายภาพบำบัด: ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และปรับปรุงการทรงตัว

การใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน: เช่น ไม้เท้า, สนับแขนขา หรือรองเท้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวและป้องกันการหกล้ม

การดูแลตนเอง:

การดูแลเท้า: สำคัญมาก โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน ควรตรวจดูเท้าทุกวันเพื่อค้นหาบาดแผลหรือรอยฟกช้ำ เนื่องจากอาการชาอาจทำให้ไม่รู้สึกถึงการบาดเจ็บ

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยลดอาการปวดและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

ควบคุมอาหาร: เน้นอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ

หากคุณมีอาการชา ปวดแสบปวดร้อน หรืออ่อนแรงที่มือหรือเท้า ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดค่ะ

10
เรทราคาของขวัญจับฉลาก 500 บาท เลือกมาใช้ได้จริง

การเลือกของขวัญจับฉลากในงบ 500 บาท ที่เน้นของที่ ใช้ได้จริง และถูกใจคนส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องคิดนิดหน่อยค่ะ เพราะต้องครอบคลุมรสนิยมที่หลากหลายในราคาที่จำกัด ลองดูไอเดียเหล่านี้ที่รับรองว่าจับได้ใครก็ต้องอยากใช้ค่ะ


1. หมวดเครื่องใช้ส่วนตัว / ดูแลตัวเอง (ใช้ง่าย ใช้ได้ทุกคน)

ชุดสกินแคร์บำรุงมือ/ริมฝีปาก: (ประมาณ 300-500 บาท)

ไอเดีย: แฮนด์ครีมดีๆ + ลิปบาล์มบำรุงปากจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ (เช่น L'occitane, Kiehl's ไซส์เล็ก, Oriental Princess, The Body Shop) ใช้ได้ทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะช่วงอากาศแห้งๆ หรืออยู่ในห้องแอร์

เจลอาบน้ำ/โลชั่นบำรุงผิวขนาดกลาง: (ประมาณ 350-500 บาท)

ไอเดีย: เลือกกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นกลาง หรือกลิ่นแนวธรรมชาติ เช่น กลิ่นชาขาว ซิตรัส กลิ่นสะอาดๆ

สเปรย์แอลกอฮอล์พกพาดีไซน์เก๋/แบรนด์น่ารัก: (ประมาณ 200-400 บาท)

ไอเดีย: ยังเป็นของจำเป็นในยุคนี้ เลือกแบบที่เติมได้ หรือมีกลิ่นหอมน่าใช้ แบรนด์ที่เน้นดีไซน์จะเพิ่มความน่าสนใจ

มาสก์หน้าคุณภาพดีหลายแผ่น (แพ็ครวม): (ประมาณ 300-500 บาท)

ไอเดีย: เน้นมาสก์บำรุงผิวที่ใช้ได้ทุกสภาพผิว หรือมาสก์เติมความชุ่มชื้น


2. หมวดของใช้ในบ้าน / ไลฟ์สไตล์ (ครอบคลุม)

แก้วเก็บอุณหภูมิ / แก้วกาแฟดีไซน์สวย: (ประมาณ 350-500 บาท)

ไอเดีย: ใช้ได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เลือกสีพื้นเรียบๆ หรือลายมินิมอล จะเข้าได้กับทุกเพศทุกวัย

เทียนหอม / ก้านหอมปรับอากาศกลิ่นผ่อนคลาย: (ประมาณ 400-500 บาท)

ไอเดีย: เลือกกลิ่นที่คนส่วนใหญ่ชอบ เช่น ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส กลิ่นสะอาดๆ กลิ่นไม้จันทน์ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในบ้านหรือห้องทำงาน

ชุดจาน/ชาม/แก้วเซรามิกน่ารักๆ 1-2 ชิ้น: (ประมาณ 300-500 บาท)

ไอเดีย: เลือกดีไซน์มินิมอล หรือลายเรียบๆ ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น ชุดจานอาหารเช้า

ชุดเครื่องมือในครัวเล็กๆ ที่จำเป็น: (ประมาณ 350-500 บาท)

ไอเดีย: เช่น ที่เปิดกระป๋อง, ที่ปอกผลไม้, ตะหลิว/ทัพพีซิลิโคนคุณภาพดี 1-2 ชิ้น

ถุงผ้าอเนกประสงค์ดีไซน์สวย / ถุงผ้าลดโลกร้อน: (ประมาณ 200-400 บาท)

ไอเดีย: ขนาดใหญ่หน่อย มีช่องแบ่งหรือกระเป๋าเล็กๆ ข้างใน เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

ร่มกันแดด/ฝน คุณภาพดี ทนทาน: (ประมาณ 400-500 บาท)

ไอเดีย: เลือกแบบกะทัดรัด พับเก็บง่าย เน้นสีพื้น หรือลายเรียบๆ

ปลั๊กพ่วงคุณภาพดี / ปลั๊กแปลงไฟ (Universal Adapter): (ประมาณ 400-500 บาท)

ไอเดีย: ของใช้จำเป็นในยุคดิจิทัล เลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัย

ชุดอุปกรณ์จัดระเบียบสายไฟ / กล่องเก็บสายไฟ: (ประมาณ 300-500 บาท)

ไอเดีย: ช่วยให้โต๊ะทำงานหรือมุมชาร์จอุปกรณ์ดูเรียบร้อย


3. หมวดอาหาร / เครื่องดื่ม (ทานได้ ใช้แล้วหมดไป)

ชุดชา / กาแฟดริป / ดอยคำ / ดอยตุง: (ประมาณ 350-500 บาท)

ไอเดีย: สำหรับคอกาแฟหรือคนชอบดื่มชา เลือกแบบที่มีแพ็กเกจสวยงาม

ขนม/ของทานเล่นพรีเมียม (แพ็คใหญ่): (ประมาณ 300-500 บาท)

ไอเดีย: เช่น คุกกี้กล่องสวย, ช็อกโกแลต, ผลไม้อบแห้ง, ถั่วรวม

น้ำผลไม้สกัดเย็น / เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ: (ประมาณ 400-500 บาท)

ไอเดีย: เลือกแบบที่หลากหลาย หรือเป็นเซ็ตเล็กๆ ให้เลือกชิม


4. หมวด Gadget / เครื่องเขียน (สำหรับคนทำงานยุคใหม่)

Power Bank ขนาดเล็ก: (ประมาณ 400-500 บาท)

ไอเดีย: เลือกขนาดประมาณ 5000-10000 mAh ที่มีมาตรฐานรองรับ และน้ำหนักเบา

ปากกาดีๆ / ชุดปากกาหลายสี: (ประมาณ 300-500 บาท)

ไอเดีย: ปากกาเจล/ลูกลื่นจากแบรนด์ Muji, Pentel, Pilot หรือปากกาสวยๆ ที่เขียนลื่นมือ

สมุดโน้ตดีไซน์สวย + ปากกา: (ประมาณ 350-500 บาท)

ไอเดีย: สมุดโน้ตปกแข็ง หรือสมุด Planner เล็กๆ พร้อมปากกาคุณภาพดี

กล่องจัดระเบียบโต๊ะทำงาน / กล่องใส่ปากกาดีไซน์เก๋: (ประมาณ 300-500 บาท)

ไอเดีย: ช่วยให้โต๊ะทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อย


เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือก:

หลีกเลี่ยง: ของใช้ส่วนตัวมากๆ ที่ต้องเลือกตามรสนิยม เช่น เสื้อผ้า น้ำหอม, หรือของที่เกี่ยวกับงานอดิเรกเฉพาะกลุ่มเกินไป (เช่น อุปกรณ์ตกปลา)

เน้นความปลอดภัย: สำหรับปลั๊กพ่วง Power Bank หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ควรเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน

ห่อให้สวย: ไม่ว่าจะของขวัญอะไร การห่อให้สวยงามและแนบการ์ดอวยพรสั้นๆ จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางใจให้ของขวัญได้มากค่ะ

หวังว่าไอเดียเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกของขวัญจับฉลากในงบ 500 บาท ให้เพื่อนร่วมงานและทุกคนที่ได้รับไปใช้ได้จริงและประทับใจนะคะ!

11
covid 19 ลงปอด อาการแบบไหน และวิธีรับมือก่อนเข้า รพ.

ตอนนี้ทั่วโลกได้รู้จักโควิด-19 สายพันธุ์ล่าสุดกันไปแล้ว นั่นก็คือ "โอมิครอน" Omicron (หรือโอไมครอน) ที่อาจจะกล่าวได้ว่า เป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้รวดเร็วที่สุด มากกว่าเดิม 2-5 เท่า แต่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยเบากว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ที่เราได้พบกันมา ผู้ที่ติดเชื้อบางคนไม่แสดงอาการ หรือบางคนอาการน้อยเหมือนหวัดธรรมดา มาดูกันว่าอาการของโอมิครอนที่พบมากในประเทศไทยมีอะไรบ้าง

ไอ 54%
เจ็บคอ 37%
มีไข้ 29%
ปวดกล้ามเนื้อ 15%
มีน้ำมูก 12%
ปวดศีรษะ 10%
หายใจลำบาก 5%
ได้กลิ่นลดลง 2%

นอกจากนี้ยังมีอาการใหม่เพิ่มขึ้นมาจากสายพันธุ์อื่น ๆ คือ เหงื่อออกตอนกลางคืน ถึงจะนอนหลับในห้องแอร์ แต่เหงื่อจะออกจนเปียกโชกให้เราต้องลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเลยทีเดียว

เนื่องด้วยตอนนี้ได้มีการปรับกฎเกณฑ์การเข้ารักษาตัวใหม่ โดยผู้ที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ไม่มีความเสี่ยงทางการแพทย์ เช่น ไม่เป็นโรคเรื้อรัง ความดันโลหิตไม่สูง เป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว เน้นให้รักษาตัวแบบ home isolation ถึงแม้ผู้ติดเชื้อโอมิครอนจะอาการน้อยหรือไม่รุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องระวัง ก็อาจมีอาการหนักขึ้นได้ โดยอาการที่อันตรายต้องเฝ้าระวังก็คือ "อาการโควิดลงปอด" ยังเป็นอาการสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม

โควิด-19 ลงปอดอาการแบบไหน

โดยทั่วไปแล้ว การที่โควิดลงปอดส่วนใหญ่จะจัดเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและแดง มีอาการดังนี้

    มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส
    มีอาการไอ ทั้งไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ เป็นสัญญาณที่บอกว่าปอดเริ่มอักเสบ
    หายใจลำบากขึ้น รู้สึกหายใจได้ไม่เต็มปอด แน่นหน้าอก
    รู้สึกเหนื่อยหอบ เหนื่อยง่ายขึ้น จากที่ปกติไม่เหนื่อยกลับเหนื่อย
    สำหรับผู้ที่มีเครื่องวัดออกซิเจน วัดค่าออกซิเจนได้ต่ำกว่า 94% ลงไป

แต่สำหรับบางคนอาการอาจจะไม่ชัดเจน มาดูวิธีทดสอบว่าโควิดลงปอดหรือไม่กัน

เบื้องต้นอาจลองเดินไปมา ซึ่งโดยปกติจะไม่เหนื่อย ลุกยืนหรือลุกนั่ง 3 ครั้ง หรือกลั้นหายใจ 10-15 วินาที หากทำแล้ว "เหนื่อย" และวัดออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94% ลงไป ให้สงสัยว่าโควิดลงปอดไว้ก่อน

หรือทดสอบอาการเหนื่อยด้วยวิธี Sit-to-Stand Test

อุปกรณ์ เก้าอี้ที่แข็งแรงชนิดมีพนักพิงหลัง แต่ไม่มีที่เท้าแขน และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว

1. สวมเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วเอาไว้ ดูค่าที่วัดได้แล้วจำไว้ ยืนเท้าเอวทั้งสองข้างหน้าเก้าอี้

2. จากนั้นนั่งลงให้เต็มก้นแล้วลุกขึ้นยืนตรงทันที โดยไม่ใช้มือดันหรือจับเก้าอี้ แล้วกลับไปนั่งให้เต็มก้นอีกครั้ง ทำซ้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ใน  1 นาที โดยใช้ความเร็วแบบปลอดภัยและไม่หักโหม (ควรทำได้ 20-30 ครั้ง ใน 1 นาที) หากเกิดอาการเหนื่อยอย่างมากให้หยุดทันที ไม่ต้องรอให้ครบ 1 นาที

3. เมื่อครบ 1 นาที เช็กดูที่เครื่องวัดออกซิเจนอีกครั้ง ถ้าออกซิเจนลดลงจากเดิม 3% ขึ้นไป หายใจเหนื่อย หอบมาก พูดเป็นคำไม่ได้ แสดงว่าปอดมีปัญหา เป็นสัญญาณของเชื้อลงปอด

4. ถ้าหากไม่มีเครื่องวัดออกซิเจน อาจจะใช้วิธีจับชีพจร โดยต้องไม่เกิน 120 ครั้งต่อนาที

 ผู้ที่ไม่ควรทดสอบวิธีนี้ คือ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ทรงตัวไม่ดี ผู้ที่มีไข้สูง ผู้ที่มีชีพจรช้าหรือเร็วผิดปกติ ผู้ที่มีสัญญาณชีพไม่คงที่ หรือผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือต่ำจนเกินไป

เมื่อโควิด-19 ลงปอดแล้วมีวิธีรับมือตอนรอเตียงอย่างไร

เมื่อโควิดลงปอดจะทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยมากผิดปกติ ดังนั้นต้องช่วยให้ปอดทำงานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการ "นอนคว่ำ" เนื่องจากปอด 2 ใน 3 จะอยู่ด้านหลัง เพื่อให้ปอดไม่มีการกดทับ เมื่อปอดทำงานได้ดีขึ้น ปริมาณออกซิเจนในร่างกายก็จะสูงขึ้น

    นอนคว่ำ และกอดหมอนไว้ที่หน้าอก เพื่อให้นอนสบายขึ้น โดยตะแคงหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง
    ถ้านอนคว่ำไม่ได้ หรือหายใจไม่ออก ให้นอนตะแคงกึ่งคว่ำ หรือเอียงตัวประมาณ 45 องศา
    สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ให้นอนโดยตะแคงด้านซ้ายลง และเฉียงตัวประมาณ 45 องศา จะทำให้น้ำหนักของมดลูกไม่ไปกดเส้นเลือดดำใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก
    ระหว่างนอนให้ขยับขาบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน เช่น งอเข่าเข้าออก หรือเหยียดปลายเท้าแล้วดึงเข้าหาตัว ให้เกิดการเคลื่อนไหวบริเวณกล้ามเนื้อส่วนน่องและส่วนขา ทำซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

การดูแลตัวเองเบื้องต้นระหว่างรอเตียง

    เตรียมยาที่ควรมีติดบ้านช่วงโควิดเอาไว้ เช่น พาราเซตามอล, ยาโรคประจำตัว, ยาแก้แพ้, ยาลดน้ำมูก, ยาแก้ไอ, ยาละลายเสมหะ, ฟ้าทะลายโจร, ผงเกลือแร่ และยาสามัญประจำบ้านตัวอื่น ๆ
    ถ้ายังรับประทานอาหารได้ ให้พยายามทานให้เพียงพอ
    ดื่มน้ำมาก ๆ ประมาณ 2-2.5 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ เลือดไม่ข้น หรือหนืด โอกาสที่จะเกิดลิ่มเลือดก็จะลดลง และช่วยให้ไม่รู้สึกเพลีย หรือมีอาการหน้ามืด แต่อย่าดื่มน้ำมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกลือแร่ในร่างกายเจือจาง
    ถ้าหากรับประทานอาหารไม่ได้ ควรดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทน หากหาซื้อเกลือแร่ไม่ได้ ให้ใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ½ ช้อนชา ผสมลงในน้ำ 1 ขวด (750 มิลลิลิตร) แล้วดื่มแทน
    หากมียาที่ต้องกินประจำ แนะนำให้กินยาให้ต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนงดยา อย่าหยุดยาเองหากไม่มีความจำเป็น ป้องกันการกำเริบของโรคประจำตัวที่มีอยู่
    อย่าลุกไปเข้าห้องน้ำเองคนเดียว ถ้าเหนื่อยมาก การเบ่งถ่ายอาจทำให้หมดสติได้ ให้เตรียมที่สำหรับถ่ายไว้ข้างเตียง เช่น กระโถน
    หากท้องผูก ให้กินยาระบายอ่อน ๆ

แม้โอมิครอนจะมีอาการรุนแรงน้อย แต่ก็อย่าชะล่าใจกัน ระวังให้ไม่ติดโควิดดีที่สุดแล้ว ส่วนวิธีป้องกันโควิดที่ได้ผลยังคงเป็นการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงที่คนเยอะหรือไปอยู่ในพื้นที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท รักษาระยะห่าง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ หมั่นออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างคุมกันให้ร่างกายแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา


12
การจัดฟันเด็ก แก้ไขปัญหาช่องฟันห่างได้ไหม
 
เด็กหลายคนมีปัญหาในเรื่องของฟันห่าง ฟันซ้อนเก ฟันล้ม ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ไม่ดูแลรักษาความสะอาดในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน จนทำให้เกิดฟันผุ จนถึงขั้นสูญเสียฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะยังมีความคิดที่ว่า ฟันน้ำนมของเด็กนั้น ไม่มีความสำคัญ แต่แท้จริงแล้ว ฟันน้ำนมของเด็กนั้น สามารถบ่งบอกสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กในอนาคตได้ เพราะฟันน้ำนมมีผลต่อการขึ้นของฟันแท้

ซึ่งฟันแท้ก็จะอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิต ดังนั้น ถ้าหากละเลยในเรื่องขอสุขอนามัยช่องปากและฟันของเด็ก อาจจะทำให้เด็กมีฟันที่ไม่สวยงามและอาจจะส่งผลทำให้เกิดปัญหาฟันในเรื่องอื่นๆได้ เช่น ปัญหาช่องฟันห่างในเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพของเด็ก อาจจะทำให้มีเพื่อนล้อ หรือสร้างความไม่มั่นใจให้กับตัวเด็กได้ ถือว่าเป็นทำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ไม่ดีเกี่ยวฟัน จนทำให้เกิดอาการกลัวหมอฟันจนไม่กล้าเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับฟันได้

ดังนั้น ทัศนคติก็เป้นเรื่องที่สำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยแนะนำคอยสอนให้เด็กได้เข้าใจและรู้จักวิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้อง และถ้าเด็กมีปัญหาฟัน ควรรีบพาเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจและแก้ไขทันที ในปัจจุบันวงการทันตกรรมของเรา มีนวัตกรรมที่สามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้ตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นก็คือ การจัดฟันในเด็ก ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาฟันของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาช่องฟันห่างหรือที่เราเรียกว่า ฟันหลอ นั่นเอง ซึ่งทำให้เด็กโดนเพื่อนล้อ และทำให้เสียความมั่นใจได้
 
การจัดฟันในเด็ก ก็เป็นอีกหนึ่งกระบวนการ ที่สามารถแก้ไขฟันที่มีความไม่สมดุลจากการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติให้กลับไปสู่สภาพที่ปกติ ซึ่งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างฟันที่ถูกเลื่อนไปจะเกิดจากการใช้แรงทั้งจากเครื่องมือภายนอกและภายในช่องปาก เป็นตัวช่วยในการกระตุ้นให้เกิดการปรับแต่งโครงสร้างฟันใหม่ และกระดูกที่ล้อมบริเวณรากฟันจะละลายเสริมสร้างโครงสร้างใหม่ของกระดูกแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานในการรักษา

แต่ข้อดีก็คือ สามารถทำให้เด็กกลับมามีฟันที่เรียงตัวอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติได้ และยังช่วยทำให้สามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย สำหรับปัญหาช่องฟันห่างในเด็กนั้น อาจมีสาเหตุจากขนาดของซี่ฟันที่ไม่เท่ากัน ฟันหาย หรือเนื้อยึดริมฝีปากที่ใหญ่กว่าปกติ เนื้อเยื่อดังกล่าวขยายเริ่มจากด้านในของริมฝีปากไปจนถึง เนื้อเยื่อเหงือกซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ของฟันบนสองซี่หน้า

สาเหตุที่รองลงมาได้แก่ปัญหาการจัดตำแหน่งในช่องปาก เช่น ขากรรไกรบนยื่น หรือการยื่นออกมาของฟัน 1 ซี่ ซึ่งก็มีวิธีการรักษาได้หลากหลายแบบ รวมไปถึงการจัดฟันในเด็กด้วย การรักษาด้วยการจัดฟันเพื่อย้ายฟัน สามารถปิดช่องฟันห่างให้สนิทได้ และถือว่าเป็นการรักษาในระยะยาว เพราะจะทำให้ฟันเคลื่อนตัวไปในตำแหน่งที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ นั่นก็คือ เคลื่อนตัวไปยังช่องว่างระหว่างฟันนั่นเอง เพียงเท่านี้ก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันห่างได้แล้ว อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็ก นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันแล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้อีกด้วย จะทำให้ใบหน้าเข้าที่มากยิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมในเรื่องของบุคลิกภาพได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
 
หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันของบุตรหลานของท่านและสนใจเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆได้ที่คลินิก เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะให้บุตรหลานของท่านได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ดีในการดูแลสุขภาพฟัน และรู้จักวิธีการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้มีฟันที่สวยงามและแข็งแรง สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และส่งเสริมในเรื่องของพัฒนาการในเด็กอีกด้วย

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


14
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


15
นครปฐม รถกระบะรับจ้างขนของ : บริการมืออาชีพ

ในยุคที่การขนส่งสินค้ามีความสำคัญอย่างมาก บริการรถหกล้อขนของนครปฐม เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจและบุคคลทั่วไปที่ต้องการขนส่งสินค้าหนัก ๆ หรือของขนาดใหญ่ มาทำความรู้จักกับบริการนี้ที่มีคุณภาพและมืออาชีพในนครปฐม

บริการรถหกล้อขนของขนส่ง ในนครปฐมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการขนส่งสินค้าในพื้นที่นครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการขนส่งของขนาดใหญ่ บริการนี้เหมาะสมและมีคุณภาพมากรับจ้างย้ายของ

   
รถหกล้อขนของนครปฐม : ความสำคัญและคุณภาพ

การเลือกบริการรถหกล้อขนของในนครปฐม คือการตัดสินใจที่มีน้ำหนักในความสำเร็จของการขนส่งของคุณ คุณจะได้รับคุณภาพและมืออาชีพที่ช่วยให้งานขนส่งของคุณเป็นเรื่องง่าย ๆ

การขนส่งของส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้รถหกล้อขนของ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญในธุรกิจการขนส่ง รถหกล้อขนของในนครปฐมมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีความสามารถในการขนส่งสินค้าหนัก ๆ และขนาดใหญ่ โดยที่ไม่เสียคุณภาพของสินค้า

   
ราคาบริการรถหกล้อขนของในนครปฐม

หากคุณกังวลเรื่องราคา บริการรถหกล้อขนของนครปฐม ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ราคาที่เป็นไปได้และคุ้มค่าจะเป็นสิ่งที่คุณพบได้ที่นี่ คุณจะได้รับคุณภาพและมูลค่าสูงสุดในการขนส่งของของคุณ

การเลือกบริการรถหกล้อขนของในนครปฐมต้องพิจารณาราคาอย่างถูกต้อง เพื่อประหยัดงบประมาณและค่าใช้จ่าย บริการรถหกล้อขนของในนครปฐม มีราคาที่เป็นไปได้และคุ้มค่า ทำให้คุณสามารถใช้บริการนี้ได้อย่างมั่นใจ

   
รถหกล้อรับจ้างขนของนครปฐม

บริการรถหกล้อขนของนครปฐม มีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมรับจ้างในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าคุณจะต้องการขนส่งในกลางวันหรือกลางคืน คุณสามารถพึงพอใจได้ในการใช้บริการนี้

การรับจ้างรถหกล้อขนของในนครปฐมเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายและมีคุณภาพสำหรับการขนส่งของของคุณ ทีมงานมืออาชีพจะดูแลและรักษาความปลอดภัยของสินค้าของคุณ

   
บริการรถหกล้อขนของใกล้นครปฐม

การขนส่งของต้องใช้ความประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย บริการรถหกล้อขนของใกล้นครปฐม ทำให้คุณสามารถประหยัดเวลาและเงินได้อย่างมาก โดยไม่ต้องสูญเสียคุณภาพ

การเลือกบริการรถหกล้อขนของใกล้นครปฐมเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและคุณภาพสำหรับการขนส่งของของคุณ คุณสามารถเพิ่มความประหยัดและความสะดวกสบายในการขนส่งสินค้าของคุณรถ 6 ล้อรับจ้าง

   
รถหกล้อขนของในจังหวัดนครปฐม

นครปฐมเป็นพื้นที่ที่มีการขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง รถหกล้อขนของในจังหวัดนครปฐม มีความคุ้มค่าและคุณภาพที่ดี เพื่อตอบสนองความต้องการขนส่งของคุณ

การขนส่งของในนครปฐมมีความสำคัญและบทบาทสำคัญในการพัฒนาภูมิภาค การใช้บริการรถหกล้อขนของในจังหวัดนครปฐม จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่นี้และส่งเสริมการพัฒนาต่อไป

   
บริการรถหกล้อในนครปฐม : ประสบการณ์และรีวิวจากลูกค้า

การตัดสินใจในการเลือก บริการรถหกล้อขนของนครปฐม มีความสำคัญมาก แต่ละรีวิวและประสบการณ์จากลูกค้าก่อนหน้านี้ เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าคุณจะได้รับคุณภาพและความพึงพอใจที่สูงสุดในการขนส่งของของคุณ

รีวิวและเรื่องราวจากผู้ใช้บริการเป็นสิ่งที่คุณสามารถใช้ในการตัดสินใจในการเลือกบริการรถหกล้อขนของในนครปฐม ด้วยข้อมูลจริงจากผู้ใช้บริการที่ผ่านมา เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้บริการที่ตรงกับความต้องการของคุณ

   
นครปฐม ขนส่งของ : อนาคตที่แสนมหัศจรรย์

การขนส่งของในนครปฐมจะไม่เพียงแค่เดินหน้า แต่ยังจะก้าวข้ามสู่อนาคตที่แสนมหัศจรรย์ ค้นพบแนวโน้มในการขนส่งสินค้าในอนาคตที่นครปฐม คุณภาพและมืออาชีพในนครปฐมยังคงเป็นเส้นทางที่คุณควรเลือกในการขนส่งของของคุณ

บริการรถหกล้อขนของในนครปฐมเป็นทางเลือกที่คุณควรคำนึงถึงอย่างจริงจัง ท่านจะได้รับประสบการณ์และความพึงพอใจที่สูงสุดในการขนส่งของของคุณ รับประกันคุณภาพและความพึงพอใจในการขนส่งของคุณด้วยบริการนี้

เชื่อมั่นได้เลย! ที่ "รถรับจ้างขนของนครปฐม" เรามุ่งมั่นให้บริการที่ดีที่สุดในการขนส่งสินค้าของคุณอย่างปลอดภัย รวดเร็ว และสะดวกสบายที่สุด รถรับจ้างขนของนครปฐมรถรับจ้างทั่วไป

ทีมงานของเรามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินการขนส่งทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายออฟฟิศ ขนของใหญ่หรือเล็ก การจัดส่งสินค้าสำเร็จรูปหรือวัตถุดิบ เรามั่นใจว่าจะสามารถให้บริการที่คุณพึงพอใจได้ในทุกครั้งที่เลือกใช้บริการของเรา


ทำไมคุณควรเลือก "รถรับจ้างขนของนครปฐม"

    ความเชื่อมั่นในความปลอดภัย : เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของสินค้าของคุณเสมอ ด้วยการดูแลและความระมัดระวังอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนของการขนส่ง
    บริการที่ปรับเปลี่ยนได้ : เราพร้อมให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการขนาดของสินค้า การเสนอราคาที่เหมาะสม หรือการจัดส่งในระยะเวลาที่คุณต้องการ
    ราคาที่เป็นกันเอง : เราให้บริการในราคาที่คุณสามารถเข้าถึงได้ โดยไม่เสียความคุ้มค่าและความเชื่อมั่นในคุณภาพ
    ความสะดวกสบาย : การติดต่อและการจัดการกับเราเป็นเรื่องง่าย ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาและตอบข้อสงสัยของคุณ

เมื่อคุณเลือก "รถรับจ้างขนของนครปฐม" นี่คือบริการรถรับจ้างที่ดีที่สุด มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับเราวันนี้! อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อขอใบเสนอราคาหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที!

หน้า: [1] 2 3 ... 21