ผู้เขียน หัวข้อ: โรคเบาหวานคืออะไร มีกี่ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร  (อ่าน 26 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 231
  • ลงประกาศฟรีออนไลน์ โพสฟรี
    • ดูรายละเอียด
โรคเบาหวานคืออะไร มีกี่ชนิด แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร

โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอย่างเรื้อรัง เนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือร่างกายไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อินซูลิน (Insulin) เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อน มีหน้าที่สำคัญในการนำน้ำตาลกลูโคสจากกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงาน เมื่อร่างกายขาดอินซูลินหรืออินซูลินทำงานผิดปกติ น้ำตาลจะค้างอยู่ในกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงต่างๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวาย เส้นประสาทถูกทำลาย ตาบอด และแผลเรื้อรังที่เท้า


โรคเบาหวานมีกี่ชนิด? แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร?

โรคเบาหวานหลักๆ มี 3 ชนิด และยังมีชนิดอื่นๆ ที่พบน้อยกว่า:

1. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes)
สาเหตุ: เป็นโรคที่เกิดจาก ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์เบต้าในตับอ่อน ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตอินซูลิน ทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินได้น้อยมากหรือไม่ผลิตเลย จัดเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune Disease)


ลักษณะเด่น:

มักพบใน เด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ตอนต้น (แต่ก็สามารถเกิดได้ทุกวัย)

อาการมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง

จำเป็นต้องได้รับอินซูลินทดแทนตลอดชีวิต โดยการฉีดอินซูลินทุกวัน

การรักษาหลัก: การฉีดอินซูลินทดแทนอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการนับคาร์โบไฮเดรตในอาหาร และการออกกำลังกาย

2. โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)
สาเหตุ: เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด (ประมาณ 90-95% ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด) เกิดจาก 2 กลไกหลัก คือ:

ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance): เซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินที่ตับอ่อนผลิตได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อผลิตอินซูลินให้เพียงพอ


ตับอ่อนผลิตอินซูลินลดลง: เมื่อเวลาผ่านไป ตับอ่อนที่ทำงานหนักเกินไปจะเสื่อมสภาพลง ทำให้ผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย


ลักษณะเด่น:

มักพบใน ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีน้ำหนักเกิน/อ้วน (แต่ปัจจุบันพบในเด็กและวัยรุ่นมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต)

มักเกี่ยวข้องกับ พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การขาดการออกกำลังกาย

อาการมักจะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ หรือไม่มีอาการเลยในช่วงแรก ทำให้บางคนไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน


การรักษาหลัก:

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ยารับประทานลดระดับน้ำตาล: เพื่อเพิ่มความไวของเซลล์ต่ออินซูลิน หรือกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน


การฉีดอินซูลิน: ในกรณีที่ยาเม็ดไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ หรือตับอ่อนเสื่อมมาก

3. โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes Mellitus: GDM)
สาเหตุ: เกิดขึ้นใน สตรีตั้งครรภ์ ที่ไม่เคยเป็นเบาหวานมาก่อน แต่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์

สาเหตุหลักมาจาก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน


ลักษณะเด่น:

มักตรวจพบในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของการตั้งครรภ์

ส่วนใหญ่มักหายไปเองหลังคลอดบุตร

มีความเสี่ยงสูง ที่มารดาจะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต และทารกมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ตัวโตผิดปกติ หรือมีปัญหาสุขภาพเมื่อโตขึ้น

การรักษาหลัก: การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเบาๆ และการฉีดอินซูลินหากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลด้วยวิธีอื่น

4. โรคเบาหวานชนิดอื่นๆ (Other Specific Types of Diabetes)
เป็นชนิดที่พบน้อยกว่า เกิดจากสาเหตุที่เฉพาะเจาะจง เช่น:


เบาหวานที่เกิดจากโรคของตับอ่อน: เช่น ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง มะเร็งตับอ่อน การผ่าตัดตับอ่อน

เบาหวานที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม: เช่น MODY (Maturity-Onset Diabetes of the Young) ซึ่งเป็นเบาหวานที่เกิดจากยีนผิดปกติบางตัว มักพบในวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ตอนต้น และถ่ายทอดทางพันธุกรรม

เบาหวานที่เกิดจากโรคทางต่อมไร้ท่อ: เช่น โรคคุชชิง (Cushing's Syndrome) โรคอะโครเมกาลี (Acromegaly)

เบาหวานที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรค HIV

ความแตกต่างที่สำคัญสรุปในตาราง
คุณสมบัติ                     เบาหวานชนิดที่ 1                             เบาหวานชนิดที่ 2                              เบาหวานขณะตั้งครรภ์
สาเหตุ                ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์สร้างอินซูลิน   ดื้ออินซูลินและตับอ่อนผลิตลดลง                   ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ทำให้ดื้ออินซูลิน
พบในวัย               เด็ก, วัยรุ่น, ผู้ใหญ่ตอนต้น           ผู้ใหญ่, ผู้สูงอายุ (พบบ่อยที่สุด)                   สตรีตั้งครรภ์
การดำเนินโรค      มักรุนแรงและเฉียบพลัน                   ค่อยเป็นค่อยไป, อาจไม่แสดงอาการ           เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์, มักหายหลังคลอด
ความสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว   ไม่สัมพันธ์กันโดยตรง           มักเกี่ยวข้องกับน้ำหนักเกิน/อ้วน                   อาจสัมพันธ์หรือไม่ก็ได้
การรักษาหลัก      อินซูลินตลอดชีวิต                   ปรับพฤติกรรม, ยาเม็ด, อินซูลิน                   ควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย, อินซูลิน (ถ้าจำเป็น)
อินซูลินในร่างกาย      ผลิตไม่ได้เลยหรือไม่เพียงพอ   ผลิตได้ (แต่ดื้อ) หรือลดลงเมื่อนานไป                   ผลิตได้แต่ทำงานไม่ดี
ปัจจัยเสี่ยง             พันธุกรรม (แต่ไม่ชัดเจนเท่าชนิด 2)   พันธุกรรม, อ้วน, ขาดออกกำลังกาย           ประวัติครอบครัว, อ้วน, เคยมีประวัติ GDM

ส่งออกไปยังชีต
การทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละชนิดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวินิจฉัย การรักษา และการจัดการโรคเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและป้องกันภาวะแทรกซ้อนครับ